DC Extended Universe บทที่ 2 (บุรุษเหล็กต่างดาว)

หมวดหมู่ DC ผู้เขียน

คริสตศักราชที่ 1972 ที่โลกมนุษย์ ณ เมือง Gotham City (ก็อตแธม ซิตี้) สองสามีภรรยานามว่า Thomas Wayne และ Martha Wayne (โธมัส กับ มาร์ธา) มหาเศรษฐีเจ้าของ Wayne Enterprise ได้ให้กำเนิดลูกชายเพียงคนเดียวขึ้น นั่นก็คือ Bruce Wayne (บรูซ เวย์น)

โธมัส เวย์น , มาร์ธา เวย์น (BvS: Dawn of Justice)

 

ณ อัคนีแห่งนิรันดร์ ร่างกายและพลังของชาแซมคนสุดท้าย ถดถอยลงไปเรื่อยๆ ทำให้เริ่มจะควบคุมบาปทั้ง 7 ให้อยู่ในรูปปั้นต่อไปไม่ไหว ชาแซมคนสุดท้ายต้องรีบหาแชมเปี้ยนคนใหม่ เพื่อมอบพลังชาแซมทั้งหมดที่อยู่ในไม้เท้าให้คนผู้นั้น

คริสตศักราชที่ 1974 แต่ผ่านไปคนแล้วคนเล่า ชาแซมก็ยังไม่พบผู้ที่เหมาะสมซักที จนมาถึงคิวของเด็กชายนามว่า Thaddeus Sivana (แธดเดออัส ซีวาน่า) คือหนึ่งในผู้ที่ชาแซมคนสุดท้ายดึงเข้ามิติอัคนีแห่งนิรันดร์ เพื่อไปทดสอบให้เป็นแชมเปี้ยน

แธดเดออัส ซีวาน่า เดินเข้าสู่อัคนีแห่งนิรันดร์ (Shazam)

 

แต่แธดเดออัสนั้นก็ไม่ผ่านการล่อลวงจากบาปทั้ง 7 เช่นกัน เพราะทำท่าจะเอื้อมมือไปหยิบ Eye of Sin หรือ ดวงตาแห่งบาป ที่บรรจุพลังของบาปทั้ง 7 เอาไว้

ชาแซมจึงส่งแธดเดออัสกลับมิติโลก แธดเดออัสผูกใจเจ็บแค้นไม่เหมือนคนอื่นๆ เพราะตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แธดเดออัสพยายามเสาะหาทางเข้าประตูมิติอัคนีแห่งนิรันดร์อย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อต้องการกลับไปครองดวงตาแห่งบาปอย่างที่ตนต้องการ

 

ต้นคริสตศักราชที่ 1980 ที่ดาวคริปตอน นักวิทยาศาสตร์ชั้นสูงแห่งสภาอาวุโสนามว่า Jor-El (จอร์เอล) และสมาชิกสภาผู้อาวุโสสตรีนามว่า Lara Lor-Van (ลาร่า ลอร์แวน) ได้ลักลอบสมสู่กับแบบธรรมชาติ ซึ่งผิดกฎร้ายแรง ทั้งคู่ให้กำเนิดบุตรชายนามว่า Kal-El (คาลเอล)

นี่เป็นการให้กำเนิดชาวคริปโตเนี่ยนแบบธรรมชาติอีกครั้งในรอบหลายร้อยปี และทั้งสองสามี-ภรรยาก็วางแผนบางอย่างที่เสี่ยงอย่างยิ่ง เพื่อปกป้องทายาทตัวน้อยผู้นี้ไว้แล้ว เพื่อให้คาลเอลมีทางเลือกในเส้นทางชีวิตเอง ไม่ต้องถูกขีดเส้นจำกัดเหมือนพวกตน..

จอร์เอล และ ลาร่า กับลูกชาย คาลเอล (Man of Steel)

 

ช่วงที่คาลเอลถือกำเนิดแบบลับๆนี้เอง ที่ดาวคริปตอนเริ่มจะตายหรือแตกดับพอดี แต่เหล่าผู้อาวุโสส่วนใหญ่กลับลังเลและกลัวที่จะย้ายดวงดาว และบ่ายเบี่ยงยื้อเวลามาเนิ่นนาน

นายพล Dru-Zod (ดรู-ซ้อด) นั้นเห็นว่าเหล่าผู้อาวุโสขี้ขลาดเยี่ยงนี้ เห็นทีจะปล่อยไว้ไม่ได้ นายพลซ้อดจึงซ่องสุมกำลังทหาร หวังที่จะก่อกบฏล้มสภาผู้อาวุโส แผนของนายพลซ้อดก็คือ คงไว้ซึ่งสายพันธุ์ที่แข็งแกร่งเท่านั้น ส่วนสายพันธุ์ที่อ่อนแอนายพลซ้อดจะทำลายให้หมด

นายพลซ้อด (Man of Steel)

 

จอร์เอลก็ไปถกเถียงกับเหล่าผู้อาวุโสแห่งสภาสูงแห่งคริปตอน ถึงการที่ต้องเดินตามวิถีบรรพบุรุษที่เริ่มไว้ นั่นคือจอร์เอลอาสาเป็นผู้นำ และจะนำโคเด็กซ์ไปสร้างอารยธรรมบนดาวดวงใหม่ที่มีสภาพใกล้เคียงกับดาวคริปตอน เพราะดาวดวงนี้กำลังจะตายแล้วภายในอีกไม่กี่สัปดาห์ ซึ่งผู้อาวุโสทั้งหลายก็ยังลังเลอยู่ดี

ทันใดนั้นนายพลซ้อดก็บุกเข้ามาที่สภาผู้อาวุโสทันที และสังหารหนึ่งในผู้อาวุโส ก่อนจะประกาศกลางสภาว่า บัดนี้เหล่าทหารพวกของตนได้ทำการปฏิวัติแล้ว นายพลซ้อดพยายามเกลี้ยกล่อมจอร์เอลให้มาอยู่ฝ่ายตน แต่จอร์เอลก็ปฎิเสธนายพลซ้อด

จอร์เอลต่อหน้าผู้อาวุโสสภาสูง (Man of Steel)

 

นายพลซ้อดจึงจับกุมจอร์เอล และให้ทหารของตนนำจอร์เอลไปที่คุมขัง ระหว่างทางจอร์เอลก็หนีพวกทหารเหล่านั้นมาได้ และติดต่อไปหาลาร่าภรรยาของตนให้เตรียมยานชูชีพ ซึ่งจอร์เอลปรับเปลี่ยนไว้ให้พร้อมเดินทางไกล ส่วนทางจอร์เอลนั้นจะไปนำโคเด๊กซ์ออกมาจากถ้ำนิรภัยใต้น้ำ เพื่อจะส่งโคเด๊กซ์ไปกับคาลเอลด้วย

จอร์เอลและลาร่านำคาลเอลลูกชายไปใส่ในยานเพื่อเตรียมพร้อมเดินทาง และอัพโหลดโคเด๊กซ์เข้าไปในตัวคาลเอล พร้อมกับนำผลึกกุญแจ S สัญลักษณ์ของ “ความหวัง” ใส่เข้าไปในยานเดินทาง ทั้งนี้ก็เพื่อให้คาลเอลได้เรียนรู้วิถีชาวคริปโตเนี่ยนจากผลึกกุญแจ S ได้ เมื่อคาลเอลโตขึ้นนั่นเอง (ผลึกกุญแจ S ที่ว่านี้ทำหน้าที่คล้ายๆกับ USB และมีช่องเสียบผลึกกุญแจ S นี้ในเทคโนโลยีทุกๆอย่างของอารยธรรมคริปตอน)

กุญแจรูปตัว S (Man of Steel)

 

และจุดหมายปลายทางของยานเดินทางลำนี้ก็คือ “โลกมนุษย์” ซึ่งเป็นที่ซึ่งเหมาะสมที่สุดที่จอร์เอลและลาร่าค้นหาได้ในเวลากระชั้นชิดเช่นนี้ โดยที่โลกก็มีบรรพบุรุษคริปโตเนี่ยนเดินทางมาถึงหมื่นกว่าปีมาแล้ว ลาร่าและจอร์เอลจึงรู้ถึงการมีอยู่ของโลกมนุษย์ จากข้อมูลที่ส่งกลับมาจากยานเดินทางเก่าแก่ของชาวคริปตอนลำนั้น

ลาร่านั้นไม่ค่อยไว้ใจที่สามีจะส่งลูกไปโลกมนุษย์ เพราะดวงดาวนี้ยังเยาว์นัก ฮิวแมนนอยบนดาวโลกดวงนี้ก็อ่อนแอ ลาร่าเกรงว่าพวกมนุษย์จะสังหารคาลเอลเพราะความแปลกแยก แต่จอร์เอลกลับไม่กังวลว่าจะมีสิ่งใด “ฆ่า” ลูกชายของตนได้ จอร์เอลห่วงแต่เพียงว่า เซลล์ร่างกายของลูกชายจะดูดซับพลังงานของโลกเข้าไปมากเกิน ซึ่งอาจจะทำให้พลังงานชีวิตบางอย่างของเผ่าพันธุ์คริปโตเนี่ยนในตัวคาลเอลแปรเปลี่ยน

นายพลซ้อดบุกมายังสถานที่ปล่อยยานเดินทางของคาลเอล และพยายามขัดขวาง เพราะรู้ว่าจอร์เอลนำโคเด๊กซ์ส่งไปกับคาลเอลด้วย ซึ่งนายพลซ้อดก็ต้องการโคเด๊กซ์ไปสร้างอารยธรรมเช่นกัน แต่สุดท้ายแล้ว ลาร่าก็ปล่อยยานเดินทางออกไปจนได้ นายพลซ้อดจึงสังหารจอร์เอล และสั่งให้ทหารของตนหยุดยั้งยานเดินทางของคาลเอล

นายพลซ้อดกับแม่ทัพฟาโอร่าและทหารของตน (Man of Steel)

 

แต่สภาผู้อาวุโสก็รวบรวมกองกำลังที่เหลือ มาทำการจับกุมพวกนายพลซ้อดข้อหาก่อกบฏได้ทันท่วงที ยานเดินทางของคาลเอลจึงออกไปสู่ชั้นบรรยากาศได้สำเร็จ และมุ่งหน้าไปที่โลกมนุษย์ทันที

ที่ศาลไต่สวนในสภาผู้อาวุโสบนดวงดาวคริปตอน นายพลซ้อดและลูกน้องถูกสภาตั้งข้อหากบฎ โดยพวกของนายพลซ้อดนั้น ถูกจับแช่แข็งไว้ด้วยสารเคลือบคุมขัง และถูกเนรเทศส่งไปยังยานกักขังที่ Phantom Zone ก่อนที่นายพลซ้อดจะถูกแช่แข็งนั้น เค้าได้ปฏิญาณกับลาร่าไว้ว่า เค้าจะตามล่าคาลเอลลูกของลาร่าให้พบจงได้ ไม่ว่าคาลเอลจะไปยังที่ไกลแสนไกลแค่ไหนก็ตาม..

แม่ทัพฟาโอร่าและกลุ่มก่อกบฎถูกแช่แข็งด้วยสารเคลือบกักขัง (Man of Steel)

 

(แฟนทอมโซน คือ มิติ ที่มีไว้เพื่อคุมขังนักโทษโดยเฉพาะ) แต่หลังจากนายพลซ้อดและพวกถูกส่งมาที่แฟนทอมโซนในสภาพแช่แข็งได้ไม่นาน ดวงดาวคริปตอนก็ระเบิด และลาร่าแม่ของคาลเอลรวมถึงสิ่งมีชีวิตบนดาวคริปตอนก็ตายไปพร้อมกับดวงดาวคริปตอน

ดาวคริปตอนกำลังระเบิด (Man of Steel)

 

เหตุการณ์ดาวคริปตอนระเบิด ทำให้พวกของนายพลซ้อดเป็นอิสระทันที (ตัวควบคุมการแช่แข็งคงอยู่บนดาวคริปตอน พอดาวระเบิด ตัวควบคุมจึงพัง) นายพลซ้อดและพวกนั้นหิวโหยอย่างหนัก เพราะในมิติแฟนทอมโซนนั้นว่างเปล่าเคว้งคว้าง ในที่สุดพวกนายพลซ้อดก็คิดวิธีได้ โดยการปรับสภาพยานคุมขังนักโทษที่ขังพวกตน และปรับเปลี่ยนให้เป็นยานเดินทางที่ต้องขับเคลื่อนด้วยแฟนทอมไดรฟ์ ก่อนจะวาร์ปหนีมาจากมิติแฟนทอมโซนได้สำเร็จ เพื่อไปยังทั่วๆอาณานิคมคริปตอนทุกๆเซคเตอร์ในระบบกาแล๊กซี่ต่างๆ

แต่เมื่อไม่มีดาวแม่อย่างคริปตอนอยู่ อาณานิคมเหล่านั้นก็แห้งตายไปด้วยเช่นกัน นายพลซ้อดและพวกจึงรวบรวมเทคโนโลยีทุกๆอย่างบนอาณานิคมเหล่านั้นมาให้มากที่สุด รวมถึงเครื่องจักรสร้างโลกด้วย และออกไล่ล่าหาเบาะแสคาลเอลไปทั่วทุกหนแห่งในจักรวาลอันกว้างใหญ่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา..

นายพลซ้อดและพวกสำรวจอาณานิคมคริปตอนที่ตายแล้ว (Man of Steel)

 

ปลายคริสตศักราชที่ 1980 Kal-EL อายุไม่ถึง 1 ขวบ ที่โลกมนุษย์กลางดึก ณ เมือง Smallville เมืองเล็กๆในรัฐ Kansas City ยานเดินทางของคาลเอลก็พุ่งลงมาที่กลางไร่ในฟาร์มอันห่างไกลชุมชน ซึ่งเป็นฟาร์มของตระกูลเคนท์ อันมี Martha Kent และ Jonathan Kent (มาร์ธา และ โจนาธาน เค้นท์) อยู่กันเพียงสองคนสามีภรรยา

โจนาธานรีบเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นในฟาร์มของตน และโจนาธานก็พบยานอวกาศลึกลับตกอยู่ พอโจนาธานสัมผัสยานลำนั้น ประตูยานก็เปิดออกอัตโนมัติ และภายในยานลึกลับลำนั้นก็ปรากฎเด็กชายตัวน้อยที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ทุกอย่าง โจนาธานและมาร์ธาไม่มีลูก ทั้งสองจึงตั้งใจจะเลี้ยงเด็กลึกลับต่างดาวผู้นี้ไว้เอง ทั้งสองรีบนำยานอวกาศลำนี้ไปซ่อนไว้ที่ใต้โรงนาในฟาร์ม และตั้งชื่อคาลเอลใหม่ว่า Clark Kent (คล้าก เค้นท์)

ยานเดินทางของคาลเอล (Man of Steel)

 

คริสตศักราชที่ 1981 ที่โลกมนุษย์ เมืองก็อตแธมซิตี้ ขณะที่ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกครอบครัวเวย์น กำลังเดินอยู่บนทางเท้ากลางเมืองก็อตแธมหลังจากเพิ่งชมภาพยนตร์กันมา ชายคนหนึ่งก็มาพร้อมกับปืนในมือมาขวางทางครอบครัวเวย์น

โทมัสพยายามจะปกป้องครอบครัว จึงตรงเข้าไปหมายจะแย่งปืนจากโจร จึงโดนโจรยิงทรุดร่วงลงไป มาร์ธาต้องการปกป้องลูกจึงจะเข้าไปแย่งปืนอีกคน ก็โดนโจรยิงร่วงลงไปกองอีกคน โจรคนนั้นตกใจจึงวิ่งหนีเตลิดไป ปล่อยให้บรูซนั่งร้องไห้สติแตกมองพ่อแม่ตนเองขาดใจตายอย่างช้าๆ

บรูซขณะนั้นมีอายุ 9 ขวบ ((BvS: Dawn of Justice)

 

ศพของมาร์ธาและโทมัสถูกนำไปฝังไว้บริเวณที่ดินของตระกูลเวย์น Alfred Pennyworth (อัลเฟรด เพนนีเวิร์ธ) พ่อบ้านชาวอังกฤษของครอบครัวเวย์น จึงเข้ามาดูแลกิจการครอบครัวเวย์นทันที และจะส่งมอบทุกอย่างให้บรูซเมื่อบรูซเติบโตขึ้นจนบรรลุนิติภาวะ ซึ่งอัลเฟรดเคยเป็นสายลับMI6มาก่อนที่จะมาทำงานเป็นพ่อบ้านตระกูลเวย์น

โลงศพของมาร์ธา เวย์น และ โทมัส เวย์น ถูกฝังในปี 1981 ((BvS: Dawn of Justice)

 

คริสตศักราชที่ 1985 คิงออวักซ์ แห่งอาณาจักรแอตแลนติส มีปัญหากับราชินี Atlanna (แอตแลนน่า) จึงเกิดการไล่ล่า ราชินีแอตแลนน่าต่อสู้กับทหารของคิงออวักซ์ จนกระทั่งล่าถอยมาถึงแผ่นดินมนุษย์

ที่อ่าวแอมนาสตี้ รัฐเมน Thomas Curry (โธมัส เคอรี่) อดีตทหารผ่านศึกผู้ดูแลประภาคารชายฝั่ง ได้พบกับ แอตแลนน่า ที่ถูกทหารของคิงออร์วักซ์ไลล่าจนบาดเจ็บหมดสติ และมาเกยตื้นที่ชายฝั่งอ่าวหน้าประภาคาร

คริสตศักราชที่ 1986 โธมัสหรือทอม ดูแลให้แอตแลนน่าหายบาดเจ็บ และทั้งสองก็มีใจให้กัน รักกัน จนกระทั่งทอมและแอตแลนน่ามีลูกชายด้วยกัน 1 คน เด็กชายที่ชื่อว่า Arthur Curry (อาเธอร์ เคอรี่)

อาเธอร์ ลูกครึ่งมนุษย์กับแอตแลนเธี่ยน (Aquaman)

 

คริสตศักราชที่ 1988 ที่สมอลวิลล์ คล้าก เค้นท์ อายุ 8 ปี ก็เติบโตขึ้นมาโดยดูดซับพลังงานของโลกไปด้วย ทำให้เซลล์บางอย่างในตัวเปลี่ยนไป นั่นก็เพราะชาวคริปโตเนี่ยนมีความพิเศษดูดซับพลังงานจากแสงอาทิตย์มาเพิ่มพลังกายให้ตนเองได้อย่างมหาศาล เด็กชายคล้ากนั้น เริ่มรู้สึกว่าตัวเองนั้นผิดปกติไม่เหมือนคนอื่นแล้วในตอนนี้

พลังของคล้ากตื่นขึ้นครั้งแรก (Man of Steel)

 

ทั้งการมองทะลุเสื้อผ้าและเนื้อหนัง รวมถึงมองทะลุกำแพงได้ คล้ายกับเครื่องเอ๊กซเรย์ รวมถึงมีดวงตาที่เป็นแสงเลเซอร์ได้ หูที่ได้ยินแม้เสียงกระซิบที่ไกลออกไปหลายเมตร ความรวดเร็วที่เร็วกว่าเสียง ร่างกายทนทานต่อแรงกระทำหนักๆได้อย่างไม่มีขีดจำกัด (ความสามารถเพิ่มเติมเหล่านี้ได้มาจากพลังงานของดวงอาทิตย์)

ที่อ่าวแอมนาสตี้ รัฐเมน ช่วงที่อาเธอร์ยังเด็ก แอตแลนน่าก็ถูกทหารของราชาออร์วักซ์ตามหาจบพบ แอตแลนน่าทำการสังหารทหารเหล่านั้นทั้งหมด ก่อนจะตัดสินใจกลับไปอาณาจักรแอตแลนติสเผชิญหน้ากับออร์วักซ์ และเพื่อป้องกันสามีใหม่และลูกชายคนแรกจะเป็นอันตรายด้วย โดยทิ้งตรีศูลอาวุธของตนไว้

ควีนแอตแลนน่าบอกลาสามีและลูก (Aquaman)

 

ที่อาณาจักรแอตแลนติส แอตแลนน่ายอมกลับไปครองคู่กับออร์วักซ์ และมีลูกชายคนที่สองนามว่า ออร์ม ต่อมา ควีนแอตแลนน่าแห่งอาณาจักรแอตแลนติสนั้น ก็เริ่มสอนการต่อสู้ให้กับเจ้าหญิงเมร่าแห่งอาณาจักรเซเบล เมร่าจึงรักแอตแลนน่าเหมือนแม่ของตน

แต่ความลับเรื่องที่แอตแลนน่าแอบไปมีสัมพันธุ์กับมนุษย์ จนมีลูกนอกสมรส(อาเธอร์)ก่อนจะมีเจ้าชายออร์ม ก็เริ่มระแคะระคายไปเข้าหูราชาออร์วักซ์ แอตแลนน่าจึงถูกลงโทษ โดยการเนรเทศไปบูชายัญที่ Hidden Sea หรือ ทะเลที่สาปสูญ ที่ซึ่งมีแต่อสูรร่องสมุทรเต็มไปหมด

ที่ Kingdom of the Trench หรือ อาณาจักรร่องสมุทร ทุกคนคิดว่า แอตแลนน่าตายไปแล้ว แต่แอตแลนน่ากลับรอดชีวิต แอตแลนน่ามาเกยตื้นที่อาณาจักรร่องสมุทร และค้นพบว่าตรีศูลแห่งแอตแลนก็อยู่ที่อาณาจักร่องสมุทรนี้ ซึ่งหนทางออกไปจากอาณาจักรนี้ก็มีวิธีเดียว คือใช้พลังตรีศูลแห่งแอตแลนพาออกไป

อาณาจักรที่สาปสูญ อาณาจักรร่องสมุทร (Aquaman)

 

แต่แอตแลนน่าไม่สามารถเข้าถึงตรีศูลนี้ได้ เพราะมีอสูรกายคาราเธนเฝ้าอยู่ แอตแลนน่าสู้ไม่ได้ เพราะคาราเธนได้รับคำสั่งจากคิงแอตแลนไว้ว่า ผู้ที่เป็นราชาที่แท้จริงเท่านั้น ที่จะมีสิทธิ์ครอบครองตรีศูล แอตแลนน่าจึงติดอยู่ที่นั่นตั้งแต่นั้นเรื่อยมา..

 

คริสตศักราชที่ 1992 ที่สมอลวิลล์ คล้าก เค้นท์ อายุ 12 ปี คล้ากผ่านพ้นช่วงเวลาอันทรมานในวัยเด็กมาได้ ก็เพราะพ่อและแม่บุญธรรมของตนนั่นเอง คล้ากเผลอใช้พลังเหนือมนุษย์ช่วยเหลือเพื่อนๆในรถรับส่งนักเรียนขึ้นมาจากอุบัติเหตุรถทั้งคันตกแม่น้ำ คล้ากดันรถทั้งคันขึ้นมาบนฝั่ง และลงไปช่วยเพื่อนคนนึงที่ชื่อว่า พีท

คล้ากช่วยชีวิตพีท (Man of Steel)

 

ในเหตุการณ์นี้ โจนาธานจึงบอกความจริงให้คล้ากฟัง ว่าคล้ากมิใช่มนุษย์โลก และไม่ใช่ลูกของตนเองกับมาร์ธา หากแต่คล้ากเดินทางมากับยานบินลึกลับ โจนาธานมอบผลึกกุญแจ S ให้กับคล้าก และบอกคล้ากว่า นี่คือสิ่งที่อยู่ข้างๆตัวคล้ากหรือคาลเอลตอนที่โจนาธานพบในยานครั้งแรก คล้ากจึงนำผลึกกุญแจ S คล้องคอนับตั้งแต่นั้น แต่คล้ากก็ยังรักและคิดเสมอว่า โจนาธานและมาร์ธาคือพ่อแม่ของตน

มาร์ธาและโจนาธานก็ช่วยให้คล้ากฝึกฝนควบคุมพลังเหล่านี้ และไม่ให้แสดงพลังออกมาโดยไม่จำเป็นอีก เพราะทั้งสองกลัวว่าคล้ากจะมีภัยจากพลังพิเศษนี้นั่นเอง และคล้ากก็ไม่แสดงความสามารถของตนให้ใครเห็นอีกเลย โจนาธานและมาร์ธาสอนสั่งให้คล้ากเติบโตขึ้นมาเป็นชายหนุ่มที่แสนดี

คริสตศักราชที่ 1995 ที่ก็อตแธมซิตี้ บรูซ เวย์น อายุ 23 ปี มหาเศรษฐีหนุ่มเจ้าของเวย์นเอนเทอไพรซ์ ตัดสินใจสวมชุด Batman (แบทแมน) ออกปราบปรามเหล่าร้ายในก็อตแธมซิตี้เป็นครั้งแรก โดยพ่อบ้านอัลเฟรดรู้เห็นด้วยตลอด ผู้คนต่างเริ่มกล่าวขานถึงอัศวินแห่งรัติกาลผู้นี้แล้ว..

กำเนิดแบทแมนแห่งก๊อตแธมซิตี้ (Suicide Squad)

 

คริสตศักราชที่ 1997 ที่สมอลวิลล์ คล้าก เค้นท์ อายุ 17 ปี คล้ากยังคงอยู่ที่ฟาร์มตระกูลเค้นท์ และช่วยพ่อแม่ทำไร่เสมอมา จนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่คล้ากและโจนาธานรวมถึงมาร์ธากำลังขับรถกลับบ้าน และอยู่บนท้องถนน คล้ากกำลังถกเถียงกับโจนาธาน ว่าตนอยากใช้พลังนี้ให้เป็นประโยชน์กับมวลมนุษย์

คล้ากเผลอพูดว่าตนเองไม่จำเป็นต้องฟังโจนาธาน เพราะตนไม่ใช่ลูกแท้ๆด้วยซ้ำ โจนาธานและมาร์ธาแค่เก็บเค้ามาจากไร่ และนำมาเลี้ยง พอพูดออกไปแล้วคล้ากกลับรู้สึกผิด และยังไม่ทันได้ข้อสรุปอะไร พายุทอร์นาโดก็ถล่มเมืองสมอลวิลล์ ในเหตุการณ์นี้ทำให้โจนาธานเสียชีวิตไปในพายุทอร์นาโด จนถึงนาทีสุดท้ายของชีวิต โจนาธานก็ยังสั่งไม่ให้คล้ากออกมาช่วยตนอง

โจนาธาน ห้ามไม่ให้คล้ากออกมาช่วย (Man of Steel)

 

คล้ากเสียใจอย่างมาก ที่ไม่อาจใช้พลังของตนช่วยเหลือพ่อได้ คล้ากจึงจากสมอลวิลล์และมาร์ธาผู้เป็นแม่ออกมา และระหกระเหเร่ร่อนไปตามที่ต่างๆ เพื่อค้นหาตัวตน และในที่ๆคล้ากไปนั้น บางครั้ง คล้ากก็ต้องใช้พลังพิเศษของตนช่วยเหลือมนุษย์บ้าง แต่คล้ากจะแฝงตัวอยู่ในที่ใดที่หนึ่งเพียงไม่นาน คล้ากจะรีบจากมาและเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนตัวตนตลอด..

คริสตศักราชที่ 1998 ที่อ่าวแอมแนสตี้ อาเธอร์ในวัยรุ่นเริ่มรับรู้ว่า ตนเองมีความสามารถคุยกับสัตว์ทะเลทุกชนิดได้ หลังจากนั้น วัลโก้ ทหารคนสนิทของแอตแลนน่า ก็แอบขึ้นบกมาบ่อยครั้ง เพื่อสอนอาเธอร์ต่อสู้และใช้ความสามารถของแอตแลนเธี่ยนในตัวอาเธอร์ แหวกว่ายและเรียนรู้ทุกสิ่งเมื่ออยู่ใต้น้ำ อาเธอร์นำตรีศูลของแอตแลนน่ามาไว้ใช้ด้วย

อาเธอร์และ วัลโก้ (Aquaman)

 

คริสตศักราชที่ 2012 ที่เมืองเซ็นทรัลซิตี้ ไดอาน่า ปรินซ์ สวมชุดเกราะเป็นวันเดอร์วูแมน และจับตัวจอมวายร้ายผู้ใช้เชือกเก่งกาจได้ มหาวายร้ายผู้นั้นมีนามว่า สลิปน็อต หลังจากนั้นไดอาน่าก็ส่งตัวสลิปน็อตให้เอฟบีไอนำไปขัง

Barry Allen (แบรี่ อัลเลน) ที่กำลังวิ่งเต้นหาทางช่วยรื้อฟื้นคดีพ่อตัวเองฆ่าแม่ตัวเอง และสืบหาผู้ร้ายที่ฆ่าแม่ตัวจริง ก็โดนฟ้าผ่าลึกลับฟาดเปรี้ยงใส่เข้าให้ ทำให้แบรี่มีความเร็วสูง เข้าถึงขุมพลังแห่งจักรวาลที่เรียกว่า สปีดฟอร์ซ กลายเป็น (The Flash) เดอะแฟลซ

แบรี่ อัลเลน หรือ เดอะแฟลซ (Justice League)

 

คริสตศักราชที่ 2013 ขณะที่ ฟลอยด์ ลอว์ตัน หรือ Deadshot (เด้ดช็อต) จอมวายร้ายผู้ยิงปืนโคตรแม่น กำลังเดินอยู่ในตรอกกับลูกสาว แบทแมน ก็มาปรากฎตัวขอจับเด้ดช็อตดีๆ เพราะไม่อยากให้ลูกสาวเด้ดช็อตเห็นภาพรุนแรง

เด้ดช็อตนั้นก็ไม่อยากรุนแรงต่อหน้าลูกสาวที่ยืนขวางแบทแมนอยู่ จึงยอมให้จับแต่โดยดี แบทแมนนำเด้ดช๊อตไปให้ อแมนด้า วอลเลอร์ อแมนด้าจึงนำเด้ดช็อตไปขังที่คุก เบลลาเรฟ ที่รัฐ หลุยเซียน่า

แบทแมนจับตัวเด้ดช็อต (Suicide Squad)

 

คล้าก เค้นท์ อายุ 33 ปี คล้ากใช้ชีวิตอย่างหลบซ่อน ค้นหาตัวตนของตนเอง จวบจนวันหนึ่ง คล้ากได้ข่าวการกู้ซากเรือดำน้ำลึกลับใต้น้ำเแข็งบริเวณหุบเขาประเทศแคนาดา ซึ่งดาวเทียม NAZA เพิ่งตรวจพบได้ไม่นานนัก

ภารกิจกู้ซากเรือดำน้ำลึกลับนี้ นำโดยนายทหารของกองทัพสหรัฐฯ ผู้พัน Nathan Hardy และนักวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลที่ชื่อว่า Dr. Emil Hamilton ซึ่งกำลังกำลังรับสมัครคนงานลูกหาบขนสัมภาระ คล้ากจึงแฝงตัวมายังที่แห่งนี้เพื่อสมัครเป็นลูกหาบ เผื่อว่าจะเจอเบาะแสของตนเองได้บ้าง

ดร.แฮมิลตันและผู้พันฮาร์ดี้ (Man of Steel)

 

และคล้ากก็คิดไม่ผิด นี่ไม่ใช่ภารกิจกอบกู้ซากเรือดำน้ำสมัยสงครามโลกซะแล้ว หากแต่เป็นยานพาหนะลึกลับไม่ทราบที่มา ซึ่งมีความยาวตลอดทั้งตัวยานถึง 300 เมตรเลยทีเดียว และจากการวิเคราะห์พื้นผิวน้ำแข็งชั้นนอกที่ปกคลุมยาน พบว่ามีอายุยาวนานถึง 18,000 กว่าปีมาแล้ว และยานลำนี้ก็คือ ยานสำรวจอาณานิคมของคริปตอน ที่มายังโลกมนุษย์เมื่อหมื่นกว่าปีที่แล้วนั่นเอง

Lois Lane (โลอิส เลน) นักข่าวรางวัลพูลิตเซอร์แห่งสำนักพิมพ์ Daily planet ก็เดินทางมายังขั้วโลกเหนือที่ซึ่งค้นพบยานลึกลับลำนี้ด้วยเพื่อหาข่าวและทำข่าว โลอิสจึงพบกับคล้ากครั้งแรกที่นี่ และคิดว่าคล้ากเป็นเพียงแค่ลูกหาบธรรมดา ในคืนนั้นเอง โลอิสเห็นคล้ากแอบเข้าไปยังยานลึกลับนี้ โลอิสจึงแอบตามคล้ากไปติดๆ

โลอิสแอบตามคล้าก (Man of Steel)

 

คล้ากลอบเข้าไปในยานสำรวจอาณานิคมของชาวคริปตอน และด้วยสัญชาติญาณชาวคริปโตเนี่ยน คล้ากจึงนำผลึกกุญแจ S ใส่เข้าไปในช่องควบคุมระบบยาน ดรอยด์นิรภัยประจำยานกำลังเข้ามาจู่โจมคล้ากที่บุกรุก

แต่พอผลึกกุญแจ S เข้าสั่งงานยาน ดรอยด์นิรภัยจึงไม่ทำอันตรายคล้าก เพราะคล้ากคือหนึ่งในชาวคริปโตเนี่ยน และมีสิทธิ์ชอบธรรมใช้ยานลำนี้เต็มที่ หลังจากนั้น คล้ากก็เห็นบุคคลลึกลับอยู่ภายในยานด้วย คล้ากจึงรีบเดินตามไป

ยานอวกาศคริปตอน ที่ตอนนี้อยู่ใต้น้ำแข็ง (Man of Steel)

 

 

ณ ที่ใดที่หนึ่งกลางอวกาศ แต่การเปิดสั่งงานยานสำรวจอาณานิคมของคล้ากในครั้งนี้ ก็ได้ส่งสัญญาณไปถึงพวกของนายพลซ้อดด้วย นายพลซ้อดจึงมุ่งหน้าเดินทางมาที่โลกมนุษย์ทันที เพราะคงไม่มีใครสั่งยานสำรวจได้นอกจากชาวคริปโตเนี่ยน ซึ่งซ้อดรู้ว่า ชาวคริปโตเนี่ยนนอกจากพวกตนนั้น ก็เหลือเพียงคาลเอลลูกของจอร์เอลเพียงผู้เดียว

ที่โลกมนุษย์ บริเวณหุบเขาน้ำเแข็งประเทศแคนาดา โลอิสตามคล้ากมาบนยานสำรวจอาณานิคมลำนี้ และพบกับดรอยด์นิรภัยตัวเดิม แต่คราวนี้ดรอยด์จู่โจมโลอิส และยิงเลเซอร์ใส่ท้องโลอิสจนโลอิสกระเด็น ดรอยด์นิรภัยกำลังเข้ามาจู่โจมซ้ำ แต่คล้ากก็มาช่วยทำลายดรอยด์นิรภัย และใช้ดวงตาเลเซอร์ยิงแสงไปฆ่าเชื้อและปิดแผลที่ท้องโลอิส ก่อนที่คล้ากจะสั่งการให้ยานสำรวจอาณานิคมบินจากไป ทิ้งความสงสัยให้ทีมงานของผู้พันฮาร์ดี้ และทิ้งความสงสัยให้โลอิสด้วย

ณ สถานที่ลึกลับอันห่างไกลผู้คน บริเวณขั้วโลกเหนือ คล้ากนำยานมาจอดที่นี่ และก็พบว่าบุคคลลึกลับนั้นคือจอร์เอลพ่อแท้ๆของตน แต่หลงเหลือเพียงแค่อนุจิตความรู้ซึ่งอยู่ในโคเด๊กซ์เท่านั้น ตัวจอร์เอลจริงๆนั้นตายไปแล้ว

พ่อลูกพบกันครั้งแรก (Man of Steel)

 

คล้ากจึงเรียนรู้กับอนุจิตของจอร์เอล ถึงวิถีแห่งชาวคริปโตเนี่ยน ความเป็นมาของเผ่าพันธุ์ และการล่มสลายของอารยธรรมดาวคริปตอน หลังจากนั้นจอร์เอลก็พาคล้ากไปดูชุดเกราะดั้งเดิมของชาวคริปโตเนี่ยนที่อยู่ในยาน คล้ากจึงใส่ชุดนี้ เฉกเช่นชาวคริปโตเนี่ยนทุกคนเคยใส่ และคล้ากก็เริ่มเรียนรู้ฝึกใช้พลังของตนเองอย่างเต็มที่เสียที หลังจากกักขังพลังนี้มาเนิ่นนานหลายสิบปี โดยเฉพาะการเหาะเหิน

คาเอล หรือ คล้าก เค้นท์ ใส่ชุด S ครั้งแรก (Man of Steel)

 

ที่เมืองเมโทรโปลิส ด้านโลอิสนั้นกลับไปที่เมืองเมโทรโปลิส และรายงาน Perry White บรรณาธิการเดลี่เพลเน็ทว่า มียอดมนุษย์และเป็นเอเลี่ยนอยู่ในหมู่พวกเรา ที่หายไปพร้อมกับยานอวกาศลึกลับ โลอิสขอให้เพอรี่ลงข่าวนี้ แต่เพอรี่ไม่ลง และยังสั่งห้ามโลอิสไม่ให้ติดตามข่าวนี้อีก แต่โลอิสไม่ฟัง และโลอิสก็แอบไปพบกับนักข่าวโลกออนไลน์ เพื่อให้ลอบปล่อยข่าวนี้ออกไปแทน

โลอิสตามหาคล้าก(Man of Steel)

 

ตัวโลอิสก็เริ่มสืบข่าวเพื่อค้นหาตัวตนของลูกหาบลึกลับผู้นี้ แต่โลอิสก็สืบรู้เพียงตัวตนปลอมๆและนามแฝงเท่านั้น จนกระทั่งโลอิสสืบกลับไปจนถึงตัวของ พีท ผู้ซึ่งคล้ากเคยช่วยชีวิตไว้ในวัยเด็ก โลอิสจึงรู้ตัวตนที่แท้จริงของบุรุษผู้มีพลังพิเศษผู้นี้ว่า เค้าชื่อ คล้าก เค้นท์

ที่สมอลวิลล์ โลอิสจึงไปหาคล้ากที่บ้านในฟาร์มเมืองสมอลวิลล์ และพบแค่เพียงมาร์ธาแม่ของคล้าก มาร์ธาจึงบอกกับโลอิสว่า คล้ากจากบ้านไปหลายปีแล้ว นับตั้งแต่โจนาธานพ่อของคล้ากตาย และมาร์ธาก็ไม่เคยได้รับข่าวของคล้ากอีกเลยนับตั้งแต่นั้นเช่นกัน

มาร์ธา เค้นท์ (Man of Steel)

 

ขณะที่โลอิสกำลังยืนอยู่หน้าหลุมศพของโจนาธานนั้น คล้ากก็ปรากฎตัว และบอกกับโลอิสว่า เหตุผลในการแฝงตัวของตนนั้นมี เพราะว่าถ้ามนุษย์ทั่วไปรู้ถึงการมีอยู่ของเค้า โลกจะต้องวุ่นวายแน่นอน โลกนี้ยังรับไม่ได้กับเรื่องที่ประหลาดขนาดนี้ ซึ่งโลอิสก็รับฟังแต่โดยดี และคล้ากก็กลับมาอยู่ที่บ้านในสมอลวิลล์กับมาร์ธาแม่ของตนเองอีกครั้ง

ที่เมโทรโปลิส โลอิสจึงกลับไปรายงานบรรณาธิการเพอรี่ว่า เธอหาตัวยอดมนุษย์ลึกลับผู้นี้ไม่พบ แต่เพอรี่ไม่เชื่อโลอิส และรู้ว่าโลอิสสืบจนรู้ความจริงแล้ว แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้โลอิสไม่เปิดเผยข้อมูลนี้ นั่นจึงทำให้เพอรี่สั่งพักงานโลอิสสามอาทิตย์ทันที

เพอรี่ ไวท์ (Man of Steel)

 

โลกมนุษย์เริ่มจับความผิดปกติได้ เริ่มจากดาวเทียมของนาซ่าตรวจพบยานบินลึกลับลงจอดบนดวงจันทร์ ดร.แฮลมิลตันจึงรีบรายงานนายพล Swanwick ทันที

ไม่กี่วันต่อมา.. ชาวบ้านและหอส่องดวงดาวทั่วไป ก็เริ่มจับภาพยานบินลึกลับนี้ได้ ในคืนนั้นเอง การสื่อสารและไฟฟ้าทั่วโลกก็ขัดข้อง หลังจากนั้นจึงปรากฎหน้าของนายพลซ้อดไปในจอมอนิเตอร์ทุกๆเครื่องทั่วโลก ทั้งจอคอมหรือจอมือถือ รวมถึงจอโทรทัศน์ และนายพลซ้อดก็สื่อสารเป็นทุกๆภาษาที่มีในโลก เพื่อให้ชาวโลกส่งมอบตัวมนุษย์ต่างดาวที่ชื่อคาลเอลออกมาให้พวกตนภายใน 24 ชม. มิเช่นนั้น นายพลซ้อดจะทำลายโลกใบนี้

นายพลสวอนวิค (Man of Steel)

 

นักข่าวเวปออนไลน์ คนที่โลอิสส่งข่าวเรื่องบุรุษลึกลับให้นั้น ก็ออกมาแฉว่า โลอิสน่าจะเป็นคนที่รู้ตัวตนของคาลเอล นายพลสวอนวิคจึงส่งเอฟบีไอและผู้พันฮาร์ดี้มาจับตัวโลอิสไปสอบสวน

คล้ากจึงไปมอบตัวกับนายพลสวอนวิค เพื่อให้นายพลสวอนวิคมอบตัวของเขานั้นให้นายพลซ้อดอีกที แต่มีเงื่อนไขว่า เขาต้องการพบโลอิสก่อน เพราะคล้ากไม่สบายใจที่เป็นต้นเหตให้โลอิสถูกจับมาสอบสวน

โลอิสคุยกับคล้ากในห้องสอบสวน (Man of Steel)

 

วันรุ่งขึ้น ในเวลาส่งมอบตัว นายพลซ้อดก็ส่งรองแม่ทัพของกองกำลังตนเองคือ Faora Hu-Ul มาพาตัวคาลเอลไปยานแม่ของชาวคริปตอน แต่นายพลซ้อดต้องการตัวโลอิสด้วย ซึ่งโลอิสก็เต็มใจไป

เมื่ออยู่บนยานลำเลียง ฟาโอร่าก็ให้โลอิสใส่เครื่องปรับสภาพอากาศไว้ เพราะสภาพอากาศบนยานแม่นั้น คือสภาพอากาศเดียวกับดาวคลิปตอน มนุษย์ทนไม่ได้ ซึ่งตอนนี้คล้ากก็แอบมอบกุญแจ S ให้โลอิสเก็บไว้

เมื่อขึ้นไปถึงยานแม่ของซ้อด ซึ่งลอยลำอยู่นอกชั้นบรรยากาศโลก คล้ากก็อ่อนแรงทันทีจากสภาพอากาศของดาวคริปตอนบนยาน เหตุเพราะเซลล์ร่างกายคล้ากซึมซับระบบนิเวศของโลกมากเกินไป นั่นหมายความว่า อะไรที่เกี่ยวกับคริปตอนนั้น คล้ากแพ้หมดทุกอย่าง

คล้ากแพ้บรรยากาศคริปตอน (Man of Steel)

 

โลอิสและคาลเอลก็ถูกจับเข้าเครื่องอ่านความทรงจำ เพราะนายพลซ้อดต้องการรู้ว่า ยานเดินทางของคาลเอลอยู่ที่ใดในโลก เมื่อนายพลซ้อดรู้พิกัดที่แน่นอนของบ้านคาลเอลบนโลกจากความจำของโลอิสแล้ว นายพลซ้อดก็จับโลอิสไปคุมขัง

ในห้องคุมขังนั้น โลอิสใส่กุญแจ S เชื่อมต่อยาน ผลคืออนุจิตของจอร์เอลพ่อของคาลเอลก็ปรากฏออกมา และแนะนำให้โลอิสตั้งค่าปรับเปลี่ยนสภาพอากาศในยานแม่ให้เหมือนโลกมนุษย์ เพื่อให้คาลเอลคืนพลัง

และอนุจิตจอร์เอลก็บอกกับโลอิสว่า วิธีต่อกรกับพวกนายพลซ้อดก็คือ ส่งพวกมันกลับไปยังแฟนทอมโซน วิธีนั้นจอร์เอลก็สอนโลอิส ให้โลอิสไปบอกคาลเอลอีกที ก่อนที่จอร์เอลจะช่วยโลอิสหนีลงกระสวยอวกาศเพื่อกลับสู่โลก คาลเอลหรือคล้ากจึงคืนพลังกลับมา และรีบเหาะกลับโลกไปช่วยโลอิสในกระสวยอวกาศ และลงมายังพื้นโลกอย่างปลอดภัย

คล้ากมาฃ่วยโลอิส (Man of Steel)

ที่สมอลวิลล์ นายพลซ้อดและรองแม่ทัพฟาโอร่าบุกมาที่บ้านครอบครัวเค้นท์ที่สมอลวิลล์ทันที และบังคับให้มาร์ธาบอกที่ซ่อนยานเดินทางของคาลเอล แแต่พอฟาโอร่าไปตรวจดู กลับไม่พบโคเด็กซ์ในนั้น ซึ่งนายพลซ้อดยังไม่รู้ว่า โคเด็กซ์อยู่ในตัวคาลเอลนั่นเอง

คล้ากรีบกลับมาช่วยแม่ทันที และต่อสู้กับนายพลซ้อดอย่างหนักหน่วง ก่อนที่หน้ากากปรับสภาพอากาศของนายพลซ้อดจะพัง และนายพลซ้อดก็เริ่มตาลายเห็นภาพเอ๊กซเรย์เหมือนคล้ากตอนยังเป็นเด็ก ทำให้นายพลซ้อดเวียนหัวมาก นายพลซ้อดจึงกลับยานแม่ไป ด้านรองแม่ทัพฟาโอร่าสู้กับคล้ากได้สักพัก ก็เกิดอาการเดียวกับนายพลซ้อดเมื่อหน้ากากเริ่มเสียหาย ลูกน้องชาวคริปโตเนี่ยนจึงพาฟาโอร่ากลับยานแม่ไปอีกคน (ยังควบคุมการรับพลังจากดวงอาทิตย์ไม่ได้)

รองแม่ทัพฟาโอร่าน็อคหมดสติ (Man of Steel)

 

เมื่อนายพลซ้อดและฟาโอร่าขึ้นไปบนยานแม่แล้ว นักวิทยาศาสตร์ประจำยานจึงแจ้งว่า โคเด๊กซ์ทั้งหมดอยู่ในตัวคาลเอล ซึ่งหมายถึงเผ่าพันธุ์ชาวคริปโตเนี่ยนนับล้านชีวิต นั่นคือต้องจับคาลเอลกลับมาให้ได้ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพเป็นหรือตาย

นายพลซ้อดใช้เครื่องจักรสร้างโลกและยานแม่ ยิงไปที่กลางมหาสมุทรอินเดียและกลางเมืองเมโทรโปลิสทันที ให้ยิงพลังทะลุถึงกัน เพื่อแปรเปลี่ยนสภาพอากาศและระบบนิเวศบนโลกให้เป็นดังเช่นดาวคริปตอน นั่นคือมนุษย์ทั้งหมดจะต้องตายลง และนายพลซ้อดจะสกัดโคเด็กซ์ออกมาจากคาลเอลไม่ว่าในสภาพเป็นหรือตาย เพื่อสร้างอารยธรรมคริปตอนขึ้นมาใหม่

การสร้างบรรยากาศของชาวคริปตอน (Man of Steel)

 

ช่วงเวลานี้เองที่ทางพวกทหารสหรัฐฯตั้งชื่อให้คาลเอลว่า Superman (ซุปเปอร์แมน) โลอิสมาบอกซุปเปอร์แมนถึงวิธีขับไล่พวกนายพลซ้อด นั่นคือต้องใช้ยานเดินทางของซุปเปอร์แมนทิ้งลงไปใส่ยานแม่ของชาวคริปตอน ซึ่งยานทั้งคู่ใช้พลังขับเคลื่อนชนิดเดียวกัน นั่นก็คือแฟนทอมไดรฟ์ เมื่อพลังงานเหมือนกันปะทะกัน จะทำให้เกิดปฎิกิริยาคล้ายหลุมดำและดูดยานทั้งลำกลับไปที่แฟนทอมโซนนั่นเอง (วิธีนี้จอร์เอลบอกลูอิส)

ผู้พันฮาร์ดี้และโลอิสจึงอาสาไปทิ้งยานเดินทางของคาลเอลใส่ยานแม่ที่เมโทรโปลิสเอง ส่วนซุปเปอร์แมนก็รีบไปหยุดเครื่องจักรสร้างโลกที่กลางมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งในที่สุดซุปเปอร์แมนก็ทำลายเครื่องจักรสร้างโลกที่มหาสมุทรอินเดียลงไปได้ ในเหตุการณนี้ผู้พันฮาร์ดี้ก็ได้สละชีวิตทำลายเครื่องจักรสร้างโลกที่เมโทรโปลิสด้วยเช่นกัน โลอิสปลอดภัยออกมาได้ก่อน ส่งผลให้ลูกน้องของนายพลซ้อดกลับไปสู่แฟนทอมโชนได้ทั้งหมด เหลือเพียงซ้อดเพียงผู้เดียวที่ยังอยู่บนโลก

บรูซ เวย์น หรือ แบทแมน ที่ติดตามเหตุการณ์นี้ตลอด ก็รีบขึ้นเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวจากเมืองก็อตแธมมุ่งหน้าไปที่เมืองโทรโปลิสอย่างรีบร้อน และทันพบเห็นจังหวะที่ผู้พันฮาร์ดี้สละชีวิตพุ่งชนเครื่องจักรสร้างโลก (เมโทรโปลิสและก็อตแธมอยู่ห่างกันแค่แม่น้ำกั้น) ซึ่งสาเหตุที่บรูซรีบมา ก็เพราะที่เมืองเมโทรโปลิสมีตึกเวย์นไฟแนนเชี่ยลตั้งอยู่ด้วย ส่วนซ้อดกับซุปก็ปะทะกันโครมคราม เพราะซ้อดเริ่มชินกับพลังที่เพิ่มขึ้นแล้ว

บรูซมาทันเห็นเครื่องจักรสร้างโลกพอดี (BvS: Dawn of Justice)

 

บรูซรีบติดต่อแจ็คผู้บริหารตึกเวย์นไฟแนนเชี่ยลทางโทรศัพท์ เพื่อให้แจ็ครีบอพยพลูกน้องพนักงานออกมาจากตึกโดยด่วน จังหวะเดียวกับที่ซุปเปอร์แมนและนายพลซ้อดเหาะทะลุเข้ามากลางตึกเวย์นไฟแนเชี่ยล และนายพลซ้อดก็ยิงเลเซอร์จากดวงตาอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ลำแสงเลเซอร์ตัดกลางตึกทั้งตึก ผลทำให้ตึกล้มครืนและถล่มอย่างรวดเร็ว แจ็คนั้นตายทันที

บรูซรีบวิ่งเข้าไปในเศษซากตึก และพบกับ วอลเลซ หนึ่งในพนักงานบริษัทของเวย์นไฟแนนเชี่ยล ซึ่งถูกเศษซากตึกทับขาทั้งสองข้างจนกระดูกเละ บวกกับพนักงานของเวย์นไฟแนนเชี่ยลมากมายที่ตายลงไป..

บรูซรีบช่วยวอลเลซออกจากซากตึก (BvS: Dawn of Justice)

 

ขณะที่บรูซพุ่งไปช่วยเด็กอีกคน บรูซก็เงยหน้ามองบนท้องฟ้าด้วยสายตาโกรธแค้น เพราะห็นซุปเปอร์แมนกับนายพลซ้อดกำลังเหาะอัดกันทำลายบ้านเมืองเละเทะ ทั้งคู่เหา่ะทะลุเข้าไปในตึกๆนึง ซึ่งนายพลซ้อดกำลังยิงเลเซอร์จากตาฆ่ามนุษย์ในตึกนี้ ซุปเปอร์แมนจึงต้องตัดสินใจหักคอซ้อดหยุดความบ้าคลั่ง และนี่คือชีวิตแรกที่ซุปเปอร์แมนฆ่า

ซ้อดถูกซุปเปอร์แมนสังหาร (Man of Steel)

 

หลังจากเหตุการณ์ทุกอย่างจบลง คล้าก เค้นท์ จึงไปสมัครงานเป็นนักข่าวที่สำนักพิมพ์เดลลี่เพลเน็ทในเมืองเมโทรโปลิส ซึ่งมีโลอิสเพียงผู้เดียวในสำนักพิมพ์ ที่รู้ว่าคล้าก ก็คือ คาลเอล หรือ ซุปเปอร์แมน มนุษย์ต่างดาวชาวคลิปตอนที่ช่วยโลกไว้..

ที่เมืองเมโทรโปลิส หลายสัปดาห์ต่อมา.. รัฐบาลสหรัฐฯสร้างเขตควบคุมพิเศษ ห้ามคนภายนอกเข้าล้อมยานของนายพลซ้อดที่ตกกลางเมืองเอาไว้ และนำศพของนายพลซ้อดไปแช่แข็ง พร้อมกับสร้างอนุสาวรีย์ของซุปเปอร์แมนไว้ที่สวนสาธารณะกลางเมืองเมโทรโปลิสนับตั้งแต่นั้น

รูปปั้นซุปเปอร์แมน (BvS: Dawn of Justice)

 

ที่เมืองก็อตแธม บรูซนั้นไม่ไว้ใจบุรุษเหล็กซุปเปอร์แมนบุตรแห่งคริปตอนผู้นี้ บรูซคิดว่าซุปเป็นเอเลี่ยนไม่ใช่มนุษย์ เอเลี่ยนจะไม่มีหัวใจเฉกเช่นมนุษย์ และด้วยพลังที่มากมายดุจพระเจ้าของซุปเปอร์แมน บรูซเกรงว่าซุปจะใช้อำนาจนี้ทำลายโลกเข้าซักวัน

บรูซจึงมีแผนการที่จะกำจัดซุปเปอร์แมน และเริ่มสืบหาความเกี่ยวข้องกับจุดอ่อนซุปเปอร์แมน จนบรูซสืบรู้ว่า Lex Luthor (เล๊กซ์ ลูเธอร์) มหาเศรษฐีหนุ่มเจ้าของลูเธอร์คอร์ปนั้นทำการส่งลูกน้องไปที่มหาสมุทรอินเดียเพื่อค้นหาบางอย่างในยานของชาวคริปตอน

เล๊กซ์ ลูเธอร์ (BvS: Dawn of Justice)

 

ที่เมืองเมโทรโปลิส หลังจาก เล๊กซ์ ลูเธอร์ รู้ว่า มีเอเลี่ยนผู้ทรงพลังอย่างซุปเปอร์แมนปะปนอยู่ในหมู่มนุษยชาติ ลูเธอร์ก็ตั้งธงเกลียดซุปทันที (เนื่องจากปมวัยเด็กที่พ่อทารุณแต่ไม่เคยมีพระเจ้ามาช่วย ลูเธอร์จึงเกลียดซุป เพราะซุปก็เปรียบเสมือนพระเจ้าที่ไม่เคยมาช่วยเขา)

และลูเธอร์ก็เริ่มค้นหายอดมนุษย์ทั่วโลกอย่างละเอียดว่าจะมีใครเหมือนซุปเปอร์แมนอีกบ้าง จนกระทั่งลูเธอร์เริ่มค้นพบเบาะแสเกี่ยวกับยอดมนุษย์หลากหลายคนปะปนอยู่ในหมู่มวลมนุษย์ ลูเธอร์จึงคิดจัดทำไฟล์ลับเก็บไว้ โดยไฟล์ข้อมูลยอดมนุษย์เหล่านี้ลูเธอร์ตั้งชื่อว่า Meta Human (เมต้า ฮิวแมน)

ที่อ่าวแอมนาสตี้ อาเธอร์ เคอรี่ ใช้ความสามารถของตนเองช่วยเหลือชาวทะเลที่มีปัญหา เพราะการว่ายน้ำที่รวดเร็วทั้งบนน้ำและใต้น้ำ บวกกับหายใจในน้ำได้ ผู้คนจึงขนานนามเคอรี่ว่า อควาแมน แต่เรื่องนี้ก็ไม่รอดหูรอดตา เล๊กซ์ ลูเธอร์ แน่นอน เพราะอควาแมนก็จัดเป็นเมต้าฮิวแมนที่ลูเธอร์ค้นหา

เทปลับของ อาเธอร์ หรือ อควาแมน ขณะโจมตีเรือดำน้ำ (BvS: Dawn of Justice)

 

คริสตศักราชที่ 2014 นักอเมริกันฟุตบอลดาวรุ่งมหาลัย วิคเตอร์ สโตน ประสบอุบัติเหตุร้ายแรง ดร.ไซลัส สโตน ผู้พ่อ จึงนำวิคเตอร์มาที่ S.T.A.R. Labs (สตาร์แลป) เพื่อใช้มาเธอร์บ๊อกซ์รักษาวิคเตอร์ ผลทำให้วิคเตอร์กลายเป็นไซบอร์ค (ต้นตระกูลวิคเตอร์ค้นพบมาเธอร์บ๊อกซ์ที่อังกฤษตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1) ทุกคนคิดว่าวิคเตอร์ตายแล้ว ทำให้วิคเตอร์ต้องอยู่อย่างหลบซ่อนตั้งแต่นั้น

วิคเตอร์กำลังโดนมาเธอร์บ๊อกซ์เปลี่ยนเป็นไซบอร์ค (BvS: Dawn of Justice)

 

ในปีเดียวกัน ฮาลี่ ควินน์ ก็ถูกแบทแมนจับกุมได้ระหว่างการไล่ล่าบนถนนเมืองก็อตแธมซิตี้ แต่โจ็กเกอร์หนีไปได้ หลังจากนั้นฮาร์ลี่ก็โดนนำไปขังที่คุกเบลลาเรฟ

ฮาลี่และโจ๊กเกอร์ถูกแบทแมนไล่ล่า (Suicide Squad)

 

คริสตศักราชที่ 2015 ไดอาน่า ปรินซ์ หรือ วันเดอร์วูแมน ใช้ชีวิตแฝงตัวอยู่ปะปนกับผู้คนมาทุกยุคทุกสมัย จนกระทั่งตอนนี้ไดอาน่าแฝงตัวมาทำงานเป็นภันฑารักษ์ หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญวัตถุโบราณและประวัติศาสตร์ของ The Grand Louvre หรือ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ในประเทศฝรั่งเศส

18 เดือนผ่านไป.. ณ ใจกลางมหาสมุทรอินเดีย ชาวพื้นเมืองที่ได้รับว่าจ้างจากคนของลูเธอร์คอร์ป ให้งมทุกอย่างที่หาได้จากยานคริปตอนมาขายให้ ในที่สุดชาวพื้นเมืองก็ค้นพบกับก้อนคริปโตไนต์ขนาดใหญ่เท่าลูกฟุตบอลอยู่ในทะเล

คริปโตไนต์ (BvS: Dawn of Justice)

 

จบบทที่ 2

 

ผู้เขียน หลวงจีนหอไตร

Hello! Every one. จุดเริ่มต้นงานเขียนของผมก็คือ ผมเป็นนักอ่านก่อนครับ และที่ผ่านมาผมก็หาอ่านงานเขียนแนวสรุปภาพยนตร์ยากเย็นเหลือเกิน ผมจึงเริ่มเขียนบทความเองและสร้างเว็บไซต์เองซะเลย

ดูโพสท์ทั้งหมด

Tags: