Marvel Cinematic Universe บทที่ 2 (กำเนิดทีมอเวนเจอร์ส)

Spoiler Alert !! ปี 1989 ที่ไทรสเคลเลี่ยน วอชิงตันดีซี ฐานบัญชาการสูงสุดของชิลด์ที่เปิดเผยต่อสาธารณะชนเพียงฐานเดียว (ฐานอื่นๆลับหมด) ฟางเส้นสุดท้ายของด็อกเตอร์พิมก็ขาดสะบั้นลง เมื่อด็อกเตอร์พิมจับได้ว่าฮาเวิร์ดพยายามลอกเลียนสูตรอานุภาคพิมอีกครั้ง (ครั้งแรกเข้าใจผิด ครั้งนี้กะลอกจริงๆ)

มิทท์ คาร์สัน หัวหน้าฝ่ายปกป้องมาตุภูมิและสายลับไฮดร้า ก็พูดจายั่วยุสะกิดแผลใจเรื่องที่ด็อกเตอร์พิมปกป้องเจเน็ตไม่ได้ ทำให้มิทท์โดนด็อกเตอร์พิมต่อยปากแตกไปเลย เพกกี้ห้ามไม่ทัน ฮาเวิร์ดก็ไม่ห้าม เพราะมิทท์ปากเสียเอง

เพกกี้ห้ามแฮงค์ไม่ให้ต่อยมิทท์ (Ant-Man 1)

 

ด็อกเตอร์พิมจึงลาออกจากชิลด์ต่อหน้าฮาเวิร์ด/เพกกี้/และมิทท์ โดยที่ฮาเวิร์ดก็ปล่อยด็อกเตอร์พิมไป เพราะรู้ว่าด็อกเตอร์พิมเป็นคนดี คงไม่ปล่อยให้ใครได้สูตรอานุภาคพิมไปแน่นอน

ด็อกเตอร์พิม จึงนำชุดแอนท์-แมนและอนุภาคพิมออกมาจากชิลด์กับตนเองด้วย โดยไม่โดนชิลด์ขัดขวาง หลังจากนั้นด็อกเตอร์พิมก็มาจัดตั้งบริษัท พิม เทคโนโลยี (Pym technologies)

ที่ฐานชิลด์ พันเอก “นิค ฟิวรี่” ที่มีประวัติงานอันดีเยี่ยม ทั้งทักษะจากการรบที่เวียตนามในฐานะทหารกล้า และทักษะจากการจารกรรมในช่วงสงครามเย็นในฐานะซีไอเอ ฟิวรี่ก็ได้รับการติดต่อจากชิลด์ให้เข้าหน่วยชิลด์

ซึ่งขณะนั้นผู้นำหน่วยชิลด์ก็คือ อเล็กซานเดอร์ เพียซ (Alexander Pierce) และเพียซยังเป็นผู้นำสูงสุดของไฮดร้าหลังจากดร.โซล่าตายอีกด้วย

ฟิวรี่ และ เพียซ (cap 2 Winter Soldier)

 

ซึ่งตอนนั้น ชิลด์ยังไม่มีตำแหน่งผู้อำนวยการ และโปรเจคพีกาซัสกำเนิดขึ้น ซึ่งโปรเจคนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง ชิลด์ และนาซ่า และกองทัพอากาศสหรัฐฯ

 

ที่โปรเจคพีกาซัส Mar-Vell (มาร์-เวลล์) นักวิทยาศาสตร์หญิงชาวครี ที่ลงมาโลกแฝงตัวในโปรเจคพีกาซัสมาได้หลายปี โดยใช้ชื่อว่า Dr.Wendy Lawson (ดร.ลอว์สัน) มาร์-เวลล์นำพาสัตว์ต่างดาวเผ่าพันธุ์ Flerken นามว่า กู๊ส มาช่วยงานด้วย ซึ่งกู๊สมีลักษณะภายนอกเหมือนแมวธรรมดา และมาร์-เวลล์ก็เริ่มล่วงรู้ว่า แท้จริงแล้วครีกำลังไล่ล่าชาวสครัลล์

มาร์-เวลล์ หรือ ดร.ลอว์สัน (Captain Marvel)

 

มาร์-เวลล์ หรือ ดร.ลอว์สัน เป็นครีฝ่ายคิดดี จึงแอบนำแทซเซอแรคออกมาจากชิลด์ และนำไปไว้ในแลปฯลับของตนที่ลอยลำอยู่รอบๆนอกบรรยากาศโลก มาร์-เวลล์หวังจะใชัพลังคอสมิคที่สกัดจากจากแทซเซอแรคสร้างเครื่องย้ายมวลสารเพื่อช่วยชีวิตชาวสครัลล์ที่เหลือเพียงน้อยนิด

แครอล แดนเวอร์ส ที่เติบโตมาเป็นหญิงแกร่ง และสมัครเข้ากองทัพอากาศของสหรัฐฯ เพื่อเริ่มฝึกฝนเป็นนักบินดังที่ตนเองมุ่งหวังมาตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งเรียนจบหลักสูตรของกองทัพ และได้ติดยศเป็นนักบินให้กองทัพได้สมใจ

แครอล แดนเวอร์ และ มาเรีย แลมโบ สองสาวนักบินหญิงของกองทัพอากาศสหรัฐฯ สนิทสนมกับดร.ลอว์สันมาก และทั้งสองหวังไว้ว่า จะได้ออกบินทำภารกิจลับของดร.ลอว์สันในภายภาคหน้า

มาเรียและแครอล (Captain Marvel)

 

แต่ทว่า Yon-Rogg หัวหน้าหน่วยสตาร์ฟอร์ซของครี ล่วงรู้ถึงภารกิจของมาร์-เวลล์ ยอนร็อกก์จึงรีบรุดมาที่โลกเพื่อช่วงชิงเครื่องย้ายมวลสารที่มาร์-เวลล์ผลิตขึ้นจากพลังงานแทซเซอแรค

มาร์-เวลล์รู้ว่ายอนร็อกก์กำลังมาโลก มาร์-เวลล์กำลังจะนำเครื่องบินที่บรรทุกเครื่องย้ายมวลสารออกไปพาชาวสครัลล์บนแลปลับหนี แครอลจึงอาสาขับเครื่องบินให้มาร์-เวลล์หรือดร.ลอว์สันเมื่อรู้ว่าเป็นภารกิจช่วยชีวิต ซึ่งก็หนีไม่รอด เครื่องบินของทั้งสองโดนยอนร็อกก์ยิงร่วงลงพื้นโลก

ยอนร็อกก์ หัวหน้าหน่วยสตาร์ฟอร์ซ (Captain Marvel)

 

มาร์-เวลล์โดนยอนร็อกก์ยิงบาดเจ็บใกล้ตาย จึงบอกความจริงกับแครอลว่าเธอคือชาวครี และเธอจะต้องทำลายเครื่องย้ายมวลสารบนเครื่องบินก่อนยอนร็อกก์จะได้ไป

แครอล จึงยิงเครื่องย้ายมวลสารทิ้งเองกับมือ ผลทำให้รังสีคอสมิคของเครื่องย้ายมวลสารอาบร่างของแครอล บวกกับ DNA ของมาร์-เวลล์ที่หลอมละลายจากร่างมาผสานเข้ากับตัวแครอลอีกชั้น แครอลจึงมีพลังเหนือมนุษย์

แครอล ได้รับพลังคอสมิคของอินฟินิตี้สโตนและดีเอ็นเอมาร์-เวลล์ไปเต็มๆ (Captain Marvel)

 

ที่ดาวฮาล่า ยอนร็อกก์จึงจับตัวแครอลกลับไปดาวฮาล่าบ้านเกิดครี Supreme Intelligence (ซูพรีม อินเทเลเจ้นท์) มันสมองกลอัจฉริยะของครีล้างสมองแครอล ถ่ายเลือดชาวครีของยอนร็อกก์ให้แครอล ตอนนี้แครอลจึงกลายเป็นชาวครีที่ไฮบริด และมีพลังคอสมิคที่สกัดจากแทซเซอแรค แครอลไม่ใช่มนุษย์แล้วในตอนนี้ (ซูพรีม อินเทเลเจ้นท์ สร้างหน้าตาให้เหมือนดร.ลอว์สันที่แครอลเคารพ)

ซูพรีมอินเทเลเจ้นท์แห่งครี (Captain Marvel)

 

ซูพรีม อินเทเลเจ้นท์ กดพลังแครอลให้ใช้ได้แค่หมัดเพลิงปล่อยรังสีโฟตอน สอนแครอลให้เข้าถึงวิถีการควบคุมพลังคอสมิคในตัวเอง ด้านยอนร๊อกก์ก็สอนการต่อสู้ให้ แครอลจึงกลายเป็นหนึ่งในหน่วยสตาร์ฟอร์ซของครีนับตั้งแต่บัดนั้น

โครอธซ้ายสุด หนึ่งในหน่วยสตาร์ฟอร์ซ (Captain Marvel)

 

ปี 1991 ที่โลก บริเวณ ไซบีเรีย สหภาพโซเวียต ผู้พันคาพอฟผู้ดูแลโปรเจควินเทอร์โซลเยอร์คนล่าสุด ก็ปลุกบัคกี้ขึ้นมาจากการแช่แข็งอีกครั้ง เพื่อให้บัคกี้ปฎิบัติภารกิจสำคัญยิ่ง นั่นคือการลอบสังหารหนึ่งในผู้ก่อตั้งหน่วยชิลด์..

ผู้พันคาพอพอ่านชุดรหัสคำสั่ง เพื่อสะกดจิตบัคกี้ (Cap 3 Civil War)

 

ฮาเวิร์ด สตาร์ค ได้คิดค้นเซรุ่มสูตรยาจอมพลังซุปเปอร์โซลเยอร์ได้คล้ายกับของแคปสำเร็จจนได้ แต่ขณะที่ฮาเวิร์ดและมาเรียกำลังจะขับรถเดินทางไปสนามบินนั้น ก็เกิดเรื่องร้ายขึ้น

ระหว่างเดินทาง สองสามีภรรยาตระกูลสตาร์ค ก็โดนบัคกี้หรือวินเทอร์โซลเยอร์ตามมาสังหารอย่างเหี้ยมโหด บัคกี้เอาเซรุ่มจอมพลัง 5 ถุงไปจากท้ายรถฮาเวิร์ด และจัดฉากว่านี่คืออุบัติเหตุทางรถยนต์

ฮาเวิร์คโดนบัคกี้ใช้แขนเหล็กทุบหน้าจนตาย (Cap 3 Civil War)

 

หลังจากนั้นบัคกี้ก็นำเซรุ่มกลับไปให้ผู้พันคาพอฟที่ไซบีเรีย และกำเนิดวินเทอร์โซลเยอร์ใหม่ขึ้นมาอีก 5 คนจากสูตรเซรุ่มของฮาเวิร์ด ก่อนที่ผู้พันคาพอฟจะแช่แข็งวินเทอร์โซลเยอร์ทั้ง 6 ไว้อีกครั้ง..

ซึ่งในขณะนั้น “โทนี่ สตาร์ค” มีอายุ 20 กว่าปี โทนี่จึงกลายเป็นเจ้าของบริษัทสตาร์ค อินดัสทรีส์ โดยอัตโนมัติจากพินัยกรรมทายาท แต่โทนี่ยังไม่รับตำแหน่งเต็มตัว

โทนี่ สตาร์ค (Cap 3 Civil War)

 

โอบาเดอา สเตน ผู้เป็นเพื่อนฮาเวิร์ดและหนึ่งในบอร์ดบริหาร จึงดูแลบริษัทให้ชั่วคราว หลังจากทำใจได้ โทนี่ สตาร์ค ก็เข้ามาบริหารบริษัทสตาร์คอินดรัสทรีส์เต็มตัวต่อจากโอบาเดอา

 

ที่อเมริกา เอ็น’โจบู น้องชายของกษัตริย์ที’ชาก้าแห่งวากานด้า ได้รับภารกิจของหนวยสายลับวอด็อกแห่งวากานด้าไปอเมริกา เพื่อช่วยเหลือคนผิวดำที่ถูกเอาเปรียบ ทำให้เอ็น’โจบูเริ่มมีความคิดจะนำเอาความรู้ความสามารถของวากานด้าออกไปช่วยเหลือผู้คนผิวดำทั่วโลก แต่ทำไม่ได้เพราะวากานด้าเป็นประเทศปิดมายาวนาน

เอ็น’โจบู เชื้อสายเผ่าโกลเด้นแห่งวากานด้า (Black Panther 1)

 

ปี 1992 ที่วากานด้า เอ็น’โจบู จึงร่วมมือกับ ยูไลซีส คลอว์ พ่อค้าของเถื่อนอันดับต้นๆของโลก ทำการปล้นแร่ไวเบรเนียมออกมาเกือบสองตัน เหตุการณ์นี้ทำให้หัวหน้าเผ่าพรมแดนเสียชีวิตด้วย แม้ว่าคลอว์จะถูกจับตีตราทำโทษขั้นสูง แต่คลอว์ก็หนีออกมาจนได้

รอยสักบนคอของคลอว์ ภาษาแอฟริกาท้องถิ่น แปลว่า หัวขโมย (Black Panther 1)

 

ซูรี หน่วยสายลับวอร์ด็อกแห่งวากานด้า ซึ่งแฝงตัวมาเป็นคนสนิทของเอ็น’โจบู จึงรีบรายงานที’ชาก้าหัวหน้าเผ่าโกลเด้น  ซึ่งคือแบล็คแพนเธอร์และกษัตริย์แห่งวากานด้า ว่าเอ็น’โจบูน้องชายของที’ชาก้าคือผู้อยู่เบื้องหลังการขโมยแร่ไวเบรเนียม

ที่เมืองโอ๊คแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ที’ชาก้าจึงมาหาน้องชาย และเกิดอุบัติเหตุ ที’ชาก้าพลั้งมือสังหารเอ็น’โจบูน้องชายของตนเพื่อปกป้องซูรี ที’ชาก้ารีบกลับวากานด้า และทิ้งศพน้องไว้เช่นนั้น

ที’ชาก้า และ ซูรี (Black Panther 1)

 

เอ็น’จาดาก้า ลูกชายของเอ็น’โจบู เห็นเพียงยานบินล้ำสมัยที่มีเทคโนโลยีล่องหนบินออกไปจากอพาร์ทเม้นท์ตน เอ็น’จาดาก้ารีบขึ้นไปบนห้อง พบเพียงศพพ่อที่มีกรงเล็บแบล็คแพนเธอร์อยู่บนหน้าอก

เอ็น’จาดาก้าได้รับรู้ข้อมูลวากานด้ามาพอสมควรแล้วก่อนพ่อตาย แถมยังมีสัญลักษณ์ชาววากานด้าใต้ปากล่างด้านล่าง หลังจากพ่อตาย เอ็น’จาดาก้าจึงศึกษาข้อมูลของวากานด้าเพิ่มเติมจากบันทึกพ่อ และจากประวัติศาสตร์โลก เพื่อรอวันกลับไปล้างแค้นให้พ่อของตน

เอ็น’จาดาก้า หลานของกษัตริย์ที’ชาก้า (Black Panther 1)

 

ปี 1992 สถาบันห้แองแดงแห่งรัสเซีย นำโดย ผู้พันเดรคอฟ คือองค์กรสายลับสุดยอดของรัสเซีย เดรคอฟส่งสายลับมาที่อเมริกา 4 คนเพื่อจารกรรมหน่วยชิลด์โดยเฉพาะ  สายลับที่ปลอมเป็นพ่อคือ สายลับจอมพลังนามว่า อเล็กซี่  โชสตาคอฟ ฉายา Red Guardian (เร้ดการ์เดี้ยน) หน้าที่คือดูแลสายลับอีกสามคนให้ปลอดภัย

เร้ดการ์เดี้ยน ซุปเปอร์โซลเยอร์หนึ่งเดียวของรัสเซีย (Black widow 1)

 

สายลับที่ปลอมเป็นแม่คือ เมลิน่า โวสโตคอฟ ฉายา Black Widow (แบล็ควีโด)  ซึ่งเป็นมันสมองของสถาบันห้องแดง เมลิน่าคือผู้รับภารกิจหลักในปฏิบัติการแฝงตัวครั้งนี้ นั่นคือการปลอมตัวตนเข้าทำงานเป็นสเมียนตัวเล็กๆให้หน่วยงานจารชนลับของสหรัฐฯที่ชื่อ S.H.I.E.L.D. (ชิลด์) เมลิน่าทำการจารกรรมข้อมูลของชิลด์ไปมากมาย ซึ่งในข้อมูลเหล่านั้นดันมีข้อมูลของไฮดร้าด้วย

เมลิน่า โวสโตคอฟ แบล็ควีโดผู้ปราดเปรื่อง (Black widow 1)

 

สายลับที่ปลอมเป็นพี่สาวคนโต คือ นาตาชา เอเลียนอฟน่า โรมานอฟ หน้าที่ไม่มีอะไร ทำเนียนไปเฉยๆ แต่ช่วยอะไรได้บ้างนิดหน่อย เพราะนาตาชาก็ฝึกฝนการต่อส้อมาจากสถาบันห้องแดงมาพอสมควรแล้ว

 

และสายลับเด็กสาวกำพร้าอีกคนที่แฝงตัวเป็นน้องสาวคนสุดท้องคือ เยเลน่า เบโลว่า ซึ่งเยเลน่านั้นก็เด็กเกินกว่าจะเข้าใจว่า สิ่งเหล่านี้คือสิ่งจอมปลอม เยเลน่าคิดว่ามันคือชีวิตจริงๆ ครอบครัวจริงๆ  นาตาชาและเยเลน่าน้องสาวปลอมๆของเธอ ผูกพันธ์กันสเมือนพี่น้องแท้ๆ เพราะต้องแสดงบทบาทพี่น้องอยูร่วมกันในอเมริกานานไม่มีกำหนด เด็กสาวน้อยทั้งสองเริ่มคุ้นชินกับวิถีชีวิตอิสระเสรีแบบอเมริกันชน

เยเลน่าในวัยเด็ก (Black Widow 1)

 

ปี 1995 ขณะที่นาตาชาอายุได้ 11 ปี  ครอบครัวสายลับรัสเซียกลุ่มนี้ก็ถูกชิลด์ล่วงรู้ และไฮดร้าที่แฝงตัวในชิลด์ก็รู้เช่นกัน สายลับทั้งสี่ชีวิตจึงหนีการไล่ล่าของชิลด์และไฮดร้าออกมาจากอเมริกาไปถึงคิวบาได้อย่างหวุดหวิด

หลังจากนั้น ครอบครัวปลอมๆทั้งสี่คน ก็ถูกจับแยกกันไปคนละทิศคนละทาง เร้ดการ์เดี้ยนถูกสถาบันห้องแดงหักหลังจับขังลืมตลอดชีวิต ส่วนเมลิน่ายังคงถูกบังคับให้ทำงานเป็นมันสมองหลักของสถาบันห้องแดง คอยวิจัยงานอย่างลับๆ เงียบๆ และนาตาชา ถูกจับกลับฝึกต่อสู้ในสถาบันห้องแดงต่อไป

นาตาชาในวัยเด็ก (Black Widow 1)

 

ที่ดาวฮาล่า จักรวรรดิครี ผ่านมา ุ6 ปี ที่แครอลกลายเป็นเครื่องจักรสงครามทำงานให้สตาร์ฟอร์ซของครี แครอลและทีมก็ได้รับภารกิจบนดวงดาวทอร์ฟ่า สุดเขตพรมแดนของครี  เพื่อช่วยชีวิตชาวครีที่ติดอยู่บนดาว ซึ่งมีชาวสครัลล์แปลงร่างเป็นชนพื้นเมืองยุบยับไปหมดบนดาวนี้

ศึกบนดาวทอร์ฟ่า (Captain Marvel)

 

ทีมสตาร์ฟอร์ซจึงโดนชาวสครัลล์ซุ่มโจมตี แครอลโดน Talos (ทาลอส) ผู้นำชาวสครัลล์จับตัวไปได้สำเร็จ ทาลอสเจาะเข้าไปในความทรงจำของแครอล เพื่อค้นหาพิกัดของดร.ลอว์สัน (ทาลอสรู้ว่าลอว์สันอยู่ฝ่ายตน) ทาลอสจึงตั้งพิกัดยานแม่ชาวสครัลล์บินไปที่โลกทันที

แครอลโดนสครัลล์เจาะความทรงจำ (Captain Marvel)

 

แต่แครอลเริ่มได้สติและดิ้นหลุดออกมาได้ ซึ่งความทรงจำครั้งเป็นมนุษย์ธรรมดาก็เริ่มกลับมาเช่นกัน และแครอลก็หนีออกมาขึ้นยานชูชีพและตกลงไปบนโลก

เมื่อแครอลได้สติ เธอจึงพบว่าเธออยู่บนโลก ดาวที่ชาวสครัลล์ตั้งเป้าหมายมาตามหาดร.ลอว์สันนั่นเอง แครอลจึงเร่งรีบสื่อสารไปบอกยอนร็อกก์ให้รีบมาที่โลกโดยด่วน ก่อนที่สครัลล์จะพบเครื่องย้ายมวลสารและดร.ลอว์สัน ซึ่งแครอลจำไม่ได้ว่าดร.ลอว์สันตายไปแล้วเมื่อ 6 ปีก่อน และเครื่องย้ายมวลสารก็ระเบิดไปแล้วเช่นกัน

แครอลกลับมาบนโลกอีกครั้ง (Captain Marvel)

 

ที่โลก เอเจ้นท์ นิค ฟิวรี่ ระดับ 3 และเอเจ้นท์ฟิล โคลสัน ระดับ 1 แห่งหน่วยชิลด์ ได้รับรู้ถึงการแจ้งเหตุเรื่องของผู้หญิงคนนึงท่าทางประหลาด (แครอล) หน่วยชิลด์จึงรีบมาสอบสวนแครอล

แต่แล้วแครอลก็โดนชาวสครัลล์ซุ่มโจมตีก่อน ฟิวรี่เห็นชัดๆว่าแครอลยิงพลังแสงโฟตอนออกจากกำปั้นทั้งสองได้ และแครอลก็ไล่ล่าสครัลล์คนนั้นไปบนรถไฟ โคลสันกับฟิวรี่จึงรีบขับรถตามแครอลไป

แครอลกับพลังของเธอ ซึ่งยังไม่ใช่ขั้นสุด (Captain Marvel)

 

แต่แครอลก็ไล่จับสครัลล์ตนนั้นไม่ได้ แครอลจึงตามเบาะแสดร.ลอว์สันไปที่อื่นต่อ และที่สำคัญ โคลสันที่นั่งรถมากับฟิวรี่ก็เป็นสครัลล์แปลงร่าง ฟิวรี่จึงขับรถชนรถบรรทุก ทำให้สครัลล์ตนนั้นตายคารถฟิวรี่

ฟิวรี่นำศพสครัลล์ตนนั้นมาผ่าดู โดยมีเอเจ้นท์เคลเลอร์ หัวหน้าชุดจู่โจมหน่วยชิลด์ดูอยู่ด้วย ซึ่งแท้จริงแล้วเคลเลอร์ตัวจริงถูกจับไว้ เคลเลอร์คนนี้คือทาลอสผู้นำสครัลล์แปลงร่างมา

ทาลอสและฟิวรี่ดูหมอผ่าศพสครัลล์ (Captain Marvel)

 

ฟิวรี่ใช้ทักษะสายลับตัวพ่อของตนเองตามจนพบกับแครอลอีกครั้ง และยอมรับแล้วเรื่องเอเลี่ยนมีอยู่จริง แครอลมีเบาะแสต่อไปคือโปรเจคพีกาซัส

ฟิวรี่จึงอาสานำแครอลไปที่นั่นด้วยตนเอง เมื่อทั้งสองไปถึงโปรเจคพีกาซัส แครอลกับฟิวรี่ก็พบกับกู๊สที่วนเวียนอยู่ในฐานมา 6 ปีโดยฟิวรี่ไม่รู้เลยว่า กู๊สคือสัตว์ต่างดาวสุดโหด คิดเพียงว่ากู๊สเป็นเพียงแมวธรรมดา และฟิวรี่ก็แอบใช้เพจเจอร์ของตนส่งข้อความไปหาทาลอสให้มาจับตัวแครอล

กู๊ส เอเลี่ยนแสนโหด (Captain Marvel)

 

แครอลก็ได้เบาะแสใหม่ว่า ดร.ลอว์สันและนักบินคนหนึ่ง(ซึ่งก็คือแครอล) เครื่องบินตกตายในภารกิจลับสุดยอด ทันใดนั้นทาลอสก็นำหน่วยชิลด์มาตามจับแครอลตามที่ฟิวรี่แจ้งไปทางเพจเจอร์ ตอนนี้เองที่ฟิวรี่รู้แล้วว่าทาลอสคือสครัลล์ แต่โคลสันกล้าแหกกฎหน่วยชิลด์ และแอบปล่อยตัวแครอลกับฟิวรี่ไป

เอเจ้นท์ ฟิล โคลสัน เด็กใหม่ของชิลด์ (Captain Marvel)

 

แครอลยึดเพจเจอร์ฟิวรี่ และพาฟิวรี่หนีออกมาจากโปรเจคพีกาซัสโดยนำเครื่องบินรบบินออกมา กู๊สรู้หน้าที่จึงตามแครอลมาด้วย ซึ่งเบาะแสต่อไปของแครอลคือบ้านของ มาเรีย แลมโบ แครอลจึงขับเครื่องบินไปบ้านมาเรียทันที

แครอลพาฟิวรี่หนี (Captain Marvel)

 

มาเรียเล่าให้แครอลฟังทั้งหมดว่า แครอลคือใคร ทันใดนั้นทาลอสและลูกน้องก็ปรากฎตัวขึ้น พร้อมกับยื่นข้อเสนอว่า พวกสครัลล์มีกล่องดำบันทึกเหตุการณ์เมื่อ 6 ปีก่อนวันที่ดร.ลอว์สันตาย แครอลจึงรู้ความจริงว่า ผู้ร้ายตัวจริงคือพวกครี สครัลล์เป็นผู้ถูกกระทำ

ทาลอสสั่งลูกน้องนักวิทยาศาตร์สครัลล์ โมดิฟายเครื่องยนต์ของเครื่องบินแครอล เพื่อให้บินออกไปนอกชั้นบรรยากาศโลกได้ แครอล, ฟิวรี่, ทาลอส, และกู๊ส, จึงเดินทางออกนอกชั้นบรรยากาศโลก เพื่อไปที่แลปลับของดร.ลอว์สัน

ทาลอส ผู้นำชาวสครัลล์ (Captain Marvel)

 

ขณะที่คณะของแครอลเดินทาง หน่วยสตาร์ฟอร์ซนำโดยยอนร็อกก์ก็มาถึงโลกพอดี เมื่อยอนร็อกก์รู้ว่าแครอลรู้ความจริงแล้ว ยอนร็อกกซ์จึงรีบตามแครอลไปที่แลปลับ และรีบแจ้งให้โรแนนตามมาถล่มโลก

บนแลปลับของดร.ลอว์สันนอกชั้นบรรยากาศโลก แครอลพบกับแทซเซอแรคและชาวสครัลล์หลายๆคนบนนี้ รวมถึงลูกเมียร์ของทาลอสด้วย แครอลที่มีบันทึกสปีชีส์ของสิ่งมีชีวิตทั่วจักรวาล จึงให้กู๊สเผยตัวตนต่อหน้าฟิวรี่ และกู๊สก็เขมือบแทซเซอแรคเก็บไว้ในตัวเอง ช่วงที่ยอนร็อกก์นำหน่วยสตาร์ฟอร์ซบุกมาจับตัวทุกคนพอดี

แลปลับอยู่ในยานล่องหนลอยนอกชั้นบรรยากาศโลก (Captain Marvel)

 

ยอนร็อกก์ส่งแครอลเชื่อมทางจิตกับซูพรีมอินเทเลเจ้นของครี เพื่อกดพลังแครอลไว้ แต่ครั้งนี้แครอลนั้นสามารถหลุดออกจากการควบคุมของครีได้ และปลดปล่อยพลังคอสมิคในร่างออกมาขั้นสุดจนร่างเรืองแสง พลังคอสมิคของแครอลที่แผ่ไปทั่วยาน ทำให้ระบบไฟฟ้าขัดข้อง ทุกคนจึงหลุดพ้นจากการจับกุม

ร่างขั้นสุดของแครอล (Captain Marvel)

 

โดยมีกู๊ส คอยช่วยเขมือบพวกครีช่วยพวกสครัลล์และฟิวรี่หนี จนขึ้นยานลี้ภัยได้ทั้งหมด บนยานลี้ภัยนี้เอง กู๊สก็ข่วนที่ดวงตาข้างซ้ายของฟิวรี่ ด้วยพิษของกรงเล็บกู๊ส ทำให้ดวงตาฟิวรี่ถึงกับใช้การไม่ได้เลยตั้งแต่นั้น

ที่มาของฟิวรี่เสียตาไปข้างนึงเพราะกู๊ส (Captain Marvel)

 

ไม่มีใครในหน่วยสตาร์ฟอร์ซสู้แครอลได้เลยในนาทีนี้ แถมแครอลยังเหาะเป็นแล้วด้วยจากพลังคอสมิคในตัว แครอลไม่ฆ่ายอนร็อกก์ หากแต่จับใส่ยานตั้งพิกัดเดินทางกลับดาวฮาล่า เพื่อส่งข้อความไปว่า เธอจะยุติสงครามครีกับสครัลล์ลงให้ได้ แต่พวกของโรแนนก็มาถึงโลกพอดี และยิงจรวดทำลายล้างลงมามากมายหวังถล่มโลกให้สิ้น

แครอลบินยับยั้งและทำลายจรวดทิ้งทั้งหมด แถมยังบินออกไปนอกบรรยากาศโลกทำลายยานรบของครีอย่างง่ายดาย โรแนนจึงสั่งถอนกองยานรบไปก่อน ตอนนี้โรแนนจึงมีเป้าหมายใหม่ นั่นคือจับตัวแครอลไปเป็นอาวุธในภายหลัง

โรแนนต้องถอยไปตั้งหลักก่อน (Captain Marvel)

 

หลังจากที่ทุกอย่างจบลง ฟิวรี่ออกความเห็นว่า แครอลควรใช้ชื่อ Captain Marvel (กัปตันมาร์เวล) แครอลคืนเพจเจอร์ให้ฟิวรี่ และบอกว่าเธอดัดแปลงให้เพจเจอร์ส่งสัญญาณโดยตรงถึงเธอได้ไกลถึง 2 กาแล็กซี่ 

หลังจากนั้น แครอลก็บินนำชาวสครัลล์ที่อยู่บนยานลี้ภัยออกไปจากระบบกาแล็กซี่ทางช้างเผือก เพื่อค้นหาดาวดวงใหม่ให้ชาวสครัลล์ และไปสะสางกับครีด้วย

แครอลอยู่กลางอวกาศได้โดยไม่ต้องสวมชุดอวกาศ (Captain Marvel)

 

ที่ฐานชิลด์ ด้านทางฟิวรี่นั้นบอกกับโคลสันว่า เริ่มคิดโปรเจคค้นหายอดมนุษย์บนโลก เพื่อปกป้องภัยคุกคามจากนอกโลก ฟิวรี่เห็นฉายานักบินของแครอลว่า  Carol “Avenger” Danvers บนรูปถ่ายเครื่องบินของแครอล ฟิวรี่จึงตั้งชื่อโปรเจครวมยอดมนุษย์นี้ว่า Avengers

ที่มาของทีมอเวนเจอร์ มาจากฉายานักบินแครอล (Captain Marvel)

 

กู๊ส ที่ตามฟิวรี่มาจนถึงโต๊ะทำงานฟิวรี่ในหน่วยชิลด์ ก็สำรอกเอาแทซเซอแรคที่ตนเองกลืนออกมาคืน ตอนนี้แทซเซอแรค หรือ สเปซสโตน จึงอยู่ในความครอบครองของชิลด์อีกครั้ง

กูซคายแทซเซอแรคคืนให้ฟิวรี่บนโต๊ะทำงาน (Captain Marvel)

 

ปี 1995 ด้านทาง มาเรีย แลมโบ เจ้าหน้าที่นักบินระดับสูงของกองทัพ เพื่อนรักของแครอล ก็ได้ริเริ่มก่อตั้งหน่วย The Sentient Weapon Observation and Response Division หรือเรียกสั้นๆว่า S.W.O.R.D. ซึ่งอยู่ภายใต้รัฐบาลสหรัฐ  หน้าที่ของหน่วยคือเรื่องราวของการสำรวจนอกโลกโดยเฉพาะ แต่ก็มีบางครั้งที่ไปแทรกแซงหน่วยชิลด์กับภารกิจทับซ้อนในโลกบ้างบางครั้ง

มาเรีย แลมโบ ผู้ก่อตั้งหน่วยซอว์ด (Wanda Vision ss.01)

 

ที่กาแล็กซี่แอนโดรเมด้า จักรวรรดิครี ส่งกองทัพยานรบของโรแนน ไปทำศึกกับหน่วยโนว่าคอร์ปแห่งอาณาจักรซานดาร์ ซึ่งโรแนนก็เต็มใจอย่างยิ่ง เพราะตระกูลของโรแนนเสียชีวิตในการรบกับซานดาร์ไปหลายชีวิต จากสงครามที่กระทบกระทั่งเป็นระยะๆมาอย่างยาวนานหลายพันปี ในศึกครั้งล่าสุดนี้ ก็มีโครอธแห่งหน่วยสตาร์ฟอร์ซมาร่วมศึกกับโรแนนอย่างเต็มตัว

แต่เมื่อสงครามครีซานดาร์ครั้งล่าสุดยืดเยื้อ จักรวรรดิครีกับอาณาจักรซานดาร์ก็จับมือสงบศึกกัน แต่โรแนนไม่ยอมรับสัญญาสงบศึกนี้ จึงนำกองยานดาร์คเอสเตอร์ของตนตีตัวออกห่างจักรวรรดิครี และไล่ล่าชาวซานดาร์ด้วยตนเอง แต่ก็ทำได้ไม่เต็มที่นัก เพราะมีหน่วยโนว่าคอร์ปคอยปกป้องอยู่

หน่วยโนว่าคอร์ป (Guardians of the Galaxy Vol.1)

 

ธานอส ได้ล่วงรู้แล้ว ถึงความลับของขุมพลังอันยิ่งใหญ่แห่งจักรวาล นั่นคือ อินฟินิตี้สโตนทั้ง 6 ธานอสจึงมีหนทางไม่เหนื่อยกับการตามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ไปเรื่อยๆแบบนี้ เพราะถ้ามีอินฟินิตี้สโตนครบ 6 ชิ้น แค่ธานอสดีดนิ้ว ก็จะทำให้ตายได้ดั่งใจคิด ธานอสจึงเริ่มตามล่าหาเบาะแสอินฟินิตี้สโตน

ในที่สุด ธานอสกับโรแนน ก็จับมือเป็นพันธมิตรกันอย่างเปิดเผย เพราะมีอุดมการณ์คล้ายกัน ทำการไล่ล่าเข่นฆ่าเผ่าพันธุ์อื่นๆมากมาย พร้อมๆกับที่โรแนนเริ่มฝึกกาโมร่าและเนบิวล่าอย่างหฤโหดในโปรแกรมสร้างนักฆ่า “กาแล็กซี่ คลาส คิลเลอร์” ซึ่งมีโครอธคอยช่วยคุมฝึก

โครอธ กาโมร่า เนบิวล่า (Guardians of the Galaxy: Prelude #1)

 

เนบิวล่า กาโมร่า และโครอธ จึงร่วมกันทำเรื่องเลวร้ายมากมายในดวงดาวต่างๆ ภายใต้คำสั่งโรแนนและธานอส ทั้งสามกลายเป็นมือสังหารฝีมือสูง ที่มีชื่อเสียงมากในอวกาศ

ปี 1996 ที่โลก ประเทศจีน ซู เวิ๋นหวู่ เริ่มรู้สึกไม่เพียงพอกับอำนาจที่ตนเองมีอยู่ เวิ๋นหวู่ต้องการมากกว่านั้น จวบจนกระทั่งเขาค้นพบบันทึกถึงหมู่บ้าน ถาโหล๋ว อันแสนลึกลับในจีน เวิ๋นหวู่เชื่อว่าที่นั่นจะมอบพลังให้เขามากกว่าแหวนสิบวงที่เขาครอบครองอยูู่

ที่หมู่บ้านถาโหล๋ว จวบจนกระทั่งเวิ๋นหวู่ค้นพบหมู่บ้านในตำนานแห่งนี้ แต่เวิ๋นหวู่ก็ต้องปะทะกับ หยิง หลี่ จอมยุทย์สาวแสนสวยผู้ทำหน้าที่ปกป้องทางเข้าหมู่บ้าน ช่วงนึงในการต่อสู้ หลี่นำแหวนมาใช้เกิดเป็นแสงสีทอง เมื่อกลับที่เวิ๋นหวู่ก็กลับเป็นสีฟ้าตามเดิม

เวิ๋นหวู่และหลี่ ปิ๊งกันตั้งแต่แรกพบ (Shang Chi and the Legend of the Ten Rings)

 

เวิ๋นหวู่พ่ายแพ้ให้หลี่ และนี่ถือเป็นครั้งแรกในรอบพันปีที่เวิ๋นหวู่แพ้ แถมแพ้ให้สตรีซะด้วย หากแต่ท่ามกลางการต่อสู้นี้ ทั้งสองกลับตกหลุมรักกันอย่างรวดเร็ว และหลี่ก็ออมมือให้เวิ๋นหวู่ไม่ให้เวิ๋นหวู่บาดเจ็บในตอนที่แพ้ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็คบหากัน

หลี่ ยอมสละพลังวิเศษ และถูกขับไล่ออกจากถาโหล่ว เพื่อไปอยู่กินกับเวิ๋นหวู่ และเวิ๋นหวู่ก็ยุบองค์กรเทนริงส์ ทั้งสองอยู่กินกันแบบคนธรรมดา จนกระทั่งทั้งสองมีลูกด้วยกันสองคนคือ ซางฉี และ เซียหลิง 

ที่อเมริกา พันเอก นิค ฟิวรี่ ก้าวหน้าในสายงานของชิลด์ขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งได้รับความไว้วางใจจากสภาความมั่นคงโลกและเพียซ ให้ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสูงสุดของชิลด์ ซึ่งผ.อ.ฟิวรี่ก็เก็บรักษาแทซเซอแรคไว้อย่างมิดชิด ไม่คิดจะนำมาใช้ในเร็ววันนี้ ผ.อ.ฟิวรี่มุ่งมั่นค้นหายอดมนุษย์มาตั้งทีมอเวนเจอร์มากกว่า

โทนี่ สตาร์ค เติบโตขึ้นมาเป็นวิศวกรอัจฉริยะเหมือนกับฮาเวิร์ดพ่อผู้ล่วงลับ โทนี่ยังผลิตอาวุธขายเหมือนเดิม และโทนี่หยุดพัฒนาเตาปฏิกรณ์อาร์คไว้ แต่ยังคงมีอยู่ในบริษัท โทนี่เป็นมหาเศรษฐีเสเพล เจ้าชู้ มั่นใจในตัวเองสูง

โอบาเดอาและโทนี่ (Iron man 1)

 

ที่รัสเซีย  นาตาชาเติบโตขึ้นมาโดยได้รับการฝึกอย่างหนักหน่วง พร้อมๆกับเด็กผู้หญิงหลายๆคนในรุ่นเดียวกันกับเธอ ที่สถาบันห้องแดงแห่งนี้สอนความรู้ทั้งทางด้านภาษาต่างๆทั่วโลก, จิตวิทยา, วิชาการ, เทคโนโลยี, การลอบสังหาร, การจารกรรม, การต่อสู้, การวางแผนสงคราม, การเอาตัวรอดทุกๆอย่าง

และแน่นอนว่า ไม่มีเด็กที่ทนกับโปรแกรมการฝึกอันทารุณและเลวร้ายขนาดนี้ได้ทุกคน จึงจะมีเด็กหญิงแค่เพียงคนเดียว ที่สามารถยืนหยัดขึ้นมาเป็นที่หนึ่งในรุ่น ที่สุดแล้วนาตาชา ก็ฝึกครบโปรแกรมหลักสูตรอันหฤโหดนี้ และผู้เป็นที่หนึ่งในรุ่น จะได้รับฉายารหัสว่า แบล็ควีโด ส่วนเด็กสาวคนอื่นๆที่ผ่านโปรแกรมฝึกแต่ไม่เป็นที่ 1  จะได้ฉายาว่า วีโด เท่านั้น

โรมานอฟตอนเพิ่งจบหลักสูตรสายลับนักฆ่า (Avengers 2)

 

พิธีสุดท้ายคือ วีโดทุกคนต้องทำหมันไม่ให้มีลูกได้อีก สภาพจิตใจของนาตาชานั้นบอบช้ำอย่างหนัก แต่เธอก็ผ่านพ้นช่วงเวลาที่แสนจะโหดร้ายนี้มาได้ และเธอก็ไม่เคยลืมสถานที่แห่งนี้เลย หลังจากนั้น นาตาชาหรือแบล็ควีโด ก็เข้าประจำการเป็นสายลับสองหน้าให้กับหน่วยงาน K.G.B. อย่างเป็นทางการ

 

ปี 1997 หนุ่มสมองดี บรูซ แบนเนอร์ (Bruce Banner) พบกับสาวสวยลูกนายทหาร เบ็ตตี้ รอสส์ (Betty Ross) ทั้งสองตกหลุมรักกันทันที และเริ่มออกเดทกันเรื่อยมา จนกระทั่งทั้งคู่เรียนจบปริญญาเอกเป็นด็อกเตอร์ทั้งคู่

เบ็ตตี้และบรูซ (The Incredible Hulk)

 

ไคซีเลียส (Kaecilius) ชายผู้สูญเสียลูกเมีย และเคว้งคว้างสับสนในชีวิต ได้พบกับ คาล มอร์โด (Karl Mordo) ศิษย์เอกของ อันเชียนวัน มอร์โดพาไคซีเลียสมาที่ คามา-ทาจ และอันเชียนวันก็เริ่มขัดเกลาความเจ็บปวดในใจของไคซีเลียส ด้วยการสอนวิถีแห่งเวทย์

ไคซีเลียส (Doctor Strange 1)

 

ปี 1997 ที่อเมริกาเหนือ เด็กชายนักผจญภัย มาร์ค สเปคเตอร์ ผู้มีเชื้อสายอียิปเที่ยน-อเมริกัน ตัวของมาร์คและ แรนเดล สเปคเตอร์ น้องชายของเขาชื่นชอบการผจญภัยมาก มักออกไปในป่าในถ้ำในป่าแถวบ้านกันป่อยๆ  มาร์คจึงมักจะสมมุติว่าตัวเองชื่อ ดร.สตีเว่น แกรนท์ ตัวละครนักสำรวจในหนังที่พวกเขาชอบดู

จนกระทั่งวันหนึ่ง สองพี่น้องเข้าไปในถ้ำเล่นเป็นนักสำรวจเช่นเคยตามประสาเด็กๆ แต่ฝนตกแรง ระดับน้ำในถ้ำขึ้นสูงเร็วมาก แรนเดลจมน้ำตายในถ้ำ แต่มาร์ครอดมาได้ โดยพยายามช่วยน้องแต่ทำไม่ได้

มาร์ค และ แรนเดล นักสำรวจนักผจญภัยตัวน้อย (Moon Knight)

 

ในงานศพของแรนเดล แม่ของมาร์คคือ เวนดี้ สเปคเตอร์ เสียใจมากที่แรนเดลตาย จึงนำอารมณ์โศกเศร้านั้นไปลงกับมาร์ค ดุด่าว่าทำไมปล่อยให้น้องตาย เวนดี้เกลียดมาร์คลูกชายคนโตของตนเองมานับตั้งแต่นั้น บัดนี้แผลในใจของสองแม่ลูกนั้นรุนแรงไม่แพ้กัน 

ถัดมาอีกไม่กี่เดือน ในวันเกิดของมาร์คครบรอบอายุ 10 ขวบ ก็ไม่มีวี่แววของแม่มาร่วมเป่าเค้ก อีเลียตพ่อของมาร์คได้แค่บอกว่าแม่์ไม่สบาย สองพ่อลูกเป่าเทียนกันตามลำพัง เวนดี้ไม่ยอมให้อภัยมาร์คในการตายของลูกชายคนเล็กของเธอ

เวนดี้ผู้จมอยู่กับความเศร้า (Moon Knight)

 

หลังจากนั้นเวนดี้แม่ของมาร์คก็เริ่มไม่สนโลก ไม่ทำงานในบ้านงานนอกบ้าน เริ่มใช้เหล้าลดความปวดร้าวที่ลูกชายคนเล็กตาย หนักเข้าก็หันไปใช้สารเสพติดสารพัดชนิด เวนดี้เริ่มทุบตีทำร้ายร่างกายมาร์คหนักขึ้นเรื่อยๆ

ปี 1999 ในวันเกิดครบรอบวัย 12 ปีของมาร์ค คือวันที่จิตใจมาร์คทนไม่ไหวแล้ว ทั้งความรู้สึกผิดที่ปล่อยน้องตายทั้งความเครียดที่แม่ตี ทั้งความเสียใจที่แม่ไม่รัก มาร์คจึงเริ่มมีอาการทางจิตป่วยเป็นโรคหลายบุคลิก โดยบุคลิกแรกที่มาร์คสร้างขึ้นคือบุคลิกของ สตีเว่น แกรนท์ ตัวละครนักสำรวจในหนังที่เขาชื่นชอบ เรื่องที่มาร์คกลายเป็นโรคหลายบุคลิกนี้ไม่มีใครรู้ เพราะแม่ก็ไม่สน พ่อก็ไม่รู้เพราะมัวแต่กังวลแม่จะทำร้ายลูกเวลาตนเผลอ บุคลิกสตีเว่นคือคนเรียบร้อย ขึ้แหย๋ แต่ฉลาด และฝักใฝ่ในการหาความรู้ในโบราณคดีอียิปต์เชื้อสายของตน

มาร์ค สเปคเตอร์ กลายเป็น สตีเว่น แกรนท์ ครั้งแรก (Moon Knight)

 

ปี1999 ที่ประเทศโซโคเวีย เมื่อวานด้าและเปโตรอายุ 10 ขวบ วันหนึ่งขณะอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกสี่คน และพ่อกำลังเปิดซิทคอมสุดโปรดให้วานด้าดู  จู่ๆจรวดลูกนึงจากกลุ่มติดอาวุธไม่ทราบฝ่ายได้ถูกยิงเข้ามาที่แมนชั่นชั้นล่างถัดไปสองชั้นของครอบครัวแม็กซีมอฟ ตึกถล่ม ผลทำให้พ่อและแม่ของวานด้าและเปโตรตายทันที แต่น่าประหลาดที่ทั้งคู่นั้นได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น นั่นเพราะวานด้าใช้พลังเคออสเมจิกอย่างไม่ตั้งใจเพื่อองตัวเองโดยไม่รู้ตัว

วานด้า กับ เปโตร แม๊กซีมอฟ ในวัย 10 ขวบ (Wanda Vision ss.01)

 

ท่ามกลางซากปรักหักพังของตึกที่เพิ่งโดนจรวดยิงถล่ม ทันใดนั้นจรวดลูกที่สองก็ตกลงมากลางซากห้องของครอบครัวแม๊กซีมอฟ แต่มันกลับไม่ระเบิด โดยข้างๆจรวดประทับตราโลโก้บริษัท Stark industries อยู่อย่างชัดเจน

วานด้าและเปโตรนั้นนอนหลบอยู่ใต้เตียง จ้องลูกระเบิดของสตาร์คนานถึง 2 วัน และลุ้นว่ามันจะระเบิดหรือไม่ ก่อนที่หน่วยกู้ภัยจะมาช่วยทั้งสองออกไปได้จากซากตึก

เปโตรและวานด้าจ้องมองจรวดสตาร์ค (WandaVision ss1) 

 

เหตุการณ์สะเทือนใจนี้ ทำให้วานด้ากับเปโตรเคียดแค้น โทนี่ สตาร์ค มานับตั้งแต่นั้น เพราะสตาร์คอินดัสทรีส์ขายอาวุธสงครามให้ทุกคนทุกกลุ่มไม่แยกแยะ และอาวุธนั้นก็มาพรากพ่อแม่ไปจากทั้งสอง สองพี่น้องฝาแฝดเติบโตมาในบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า และเติบโตขึ้นเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง

 

23.30 น. วันที่ 31 ธันวาคม 1999 โทนี่ได้พบกับ อัลดริดส์ คิลเลี่ยน ที่พยายามเสนอโครงการ “Extremis” (เอ๊กซ์ตรีมมิส)ให้โทนี่ แต่โทนี่ไม่สนใจ ซ้ำยังหลอกให้คิลเลี่ยนไปรอที่ดาดฟ้าตึกที่หนาวเหน็บทั้งคืนในวันปีใหม่ คิลเลี่ยนเจ็บใจโทนี่มาก หาทางแก้แค้นโทนี่นับแต่นั้น

อันดริด คิลเลี่ยน พบ โทนี่ สตาร์ค ครั้งแรก (IRONMAN 3)

 

ปี 2005 ที่มหาลัยคัลเวอร์ ดร.บรูซ แบนเนอร์ และดร. เบ็ตตี้ รอส ทำการทดลองโปรเจคลับของกองทัพ โดยมีผู้นำโปรเจคคือ นายพล เแธดเดอัส รอสส์ พ่อของดร.เบตตี้ รอสส์ โปรเจคนี้คือการเลียนแบบโปรเจครีเบิร์ธ แต่เบตตี้กับบรูซไม่รู้

ดร.บรูซ แบนเนอร์ จึงบ้าบิ่นกล้าเอาตัวเองไปทดลอง รังสีแกมม่านั้นฉายออกมารุนแรงและมากเกินไป ทุกคนในห้องทดลองต้องหนีตายออกมาหมด เหลือเพียงดร.แบนเนอร์คนเดียวในห้อง แล้วก็ บรึ้ม..

ดร.บรูซ แบนเนอร์ (The Incredible Hulk)

 

ดร.แบนเนอร์ดิ้นทุรนทุรายอย่างทรมาน และก่อนที่ดร.แบนเนอร์จะดิ้นจนหลุดออกจากเครื่องฉายรังสีแกมม่า ดร.รอสก็ตรวจพบว่าอัตราการเต้นของหัวใจของดร.แบนเนอร์สูงและถี่มาก ก่อนที่ดร.แบนเนอร์จะกลายร่างเป็น “ฮัลค์” (HULK) ดร.แบนเนอร์ ต้องทิ้งแฟนสาว ดร. เบ็ตตี้ รอส เพื่อหลบหนีนับตั้งแต่นั้น

ปี 2005 มาร์คใช้บุคลิกสตีเว่นในการหลบหนีปัญหาเวลาแม่ทำร้ายเรื่อยมา นานวันเข้าความเก็บกดและความเกรี้ยวกราดในจิตใจมาร์คจึงสร้างบุคลิกที่สามขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจคือ เจค ล๊อคลีย์ บุคลิกของเจคนั้นนิยมความรุนแรงเกรี้ยวกราดเหมือนแม่ตนเอง และมาร์คในวัย 18 ปี ที่จบไฮสคูลแล้วก็ละทิ้งบ้าน อยู่ไม่ได้แล้ว ให้พ่ออยู่ดูแลแม่ไป ส่วนมาร์คไปสมัครเป็นนาวิกโยธินสหรัฐฯ

มาร์คออกไปเข้าร่วมกองทัพ (Moon Knight)

 

ด้านทางเอ็น’จาดาก้า หลานของกษัตริย์ที’ชาก้า เปลี่ยนมาใช้ชื่ออเมริกันว่า อีริค และเข้าร่วมกองทัพสหรัฐฯมาได้หลายปีแล้ว เก่งกาจเป็นสุดยอดทหาร ฆ่าศัตรูของสหรัฐฯไปมากมาย อีริคจึงได้ฉายาว่า คิลมองเกอร์

เอ็น’จาดาก้า หรือ อีริค คิลมองเกอร์ (Black Panther 1)

 

ที่หน่วยชิลด์ ขณะที่นาตาชากำลังมือขึ้น ชิลด์ได้หมายหัวสายลับสาวรัสเซียนามว่า แบล็ควีโด ไว้ในบัญชีดำที่ต้องกำจัด เพราะแบล็ควีโดจารกรรมข้อมูลสำคัญของรัฐบาลสหรัฐฯไปมากมาย  ผ.อ. Nick Fury (นิค ฟิวรี่) แห่งชิลด์ จึงมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ Clint Barton (คลินท์ บาร์ตัน) หรือฉายาว่า Hawkeye (ฮอว์คอาย) ออกตามล่าและสังหารแบล็ควีโดทันทีที่พบตัว

บาร์ตัน และ ฟิวรี่ (The Avenger 1)

 

ที่ บูดาเบสท์ ประเทศฮังการี  บาร์ตัน ออกตามล่าจนพบตัวนาตาชาซึ่งคือแบล็ควีโดคนปัจจุบัน แต่เขากลับไม่สังหารนาตาชา ซ้ำยังชักชวนให้นาตาชามาเข้าหน่วยชิลด์

ค.ศ. 2006 ซึ่งข้อแลกเปลี่ยนของชิลด์คือ นาตาชาต้องสังหารนายพล Dreykov (เดรคอฟ) ผู้บัญชาการสูงสุดของสถาบันห้องแดง และทำลายสถาบันนี้ซะ และนาตาชาก็ทำสำเร็จ แต่เหตุการณ์ลอบสังหารนายพลเดรคอฟ ก็ทำให้ลูกสาวนายพลต้องตายไปด้วย ผ.อ.ฟิวรี่ รับนาตาชาให้เป็นเจ้าหน้าที่ชิลด์นับตั้งแต่นั้น นาตาชากับบาร์ตันกลายเป็นเจ้าหน้าที่พิเศษภาคสนามคู่หูกัน และไปปฎิบัติภารกิจสำคัญด้วยกันตลอด  และเมื่อเธอเป็นพลเมืองสหรัฐฯแล้ว เธอก็ใช้ชื่อ ” Natasha Romanoff ” (นาตาชา โรมานอฟ) ตัดคำว่า เอเลียนอฟน่า ชื่อกลางของเธอออกไป

นาตาชากลั้นใจมองดูลูกสาวนายพลเดรคอฟถูกระเบิดตายในกองเพลิง (Black widow 1)

 

แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้น เดรคอฟยังไม่ตาย และย้ายสถาบันห้องแดงไปไว้บนฟ้าลอยอยู่เหนือเมฆ ทำให้ไม่มีเรดาห์ของรัฐบาลใดในโลกจับพิกัดได้ และเดรคอฟก็ควบคุมเหล่าวีโดได้โดยตรงด้วยการใส่สารเคมีในสมอง มีเพียงเร้ดดัสท์ที่จะคืนสติให้เหล่าวีโดได้ เยเลน่า เบโลว่า น้องสาวหลอกๆของนาตาชา ก็ถูกควบคุมสมองและถูกฝึกฝนเป็นนักฆ่าเฉกเช่นเดียวกันนาตาชาเช่นกัน

ปี 2007 ที่จีน บ้านของเวิ๋นหวู่ องค์กรค์เทนริงส์ไม่เคลื่อนไหวเลยตั้งแต่ปี 1996 จนถึงวันนี้ก็เป็นเวลา 10 ปีแล้ว แต่อดีตที่เวิ๋นหวู่เคยทำไว้ก็ตามมาเอาคืน เมื่อไอออนแก๊งค์ องค์กรอาชญากรรมที่แค้นเทนริงส์ สืบหาตัวจนพบว่าเวิ๋นหวู่หัวหน้าเทนริงส์อยู่บ้านหลังนี้  แต่กลับพบเพียงลูกเมียของเวิ๋นหวู่ ในเหตุการณ์นี้ ทำให้หยิงหลี่ตาย เพื่อช่วยลูกทั้งสองให้พ้นภัย

ซางฉีคุกเข่าต่อหน้าศพแม่ (Shang Chi and the Legend of the Ten Rings)

 

เวิ๋นหวู่ กลับมารวบรวมองค์กรเทนริงส์ขึ้นมาใหม่ ไม่สนใจดีชั่วแล้ว หวังแก้แค้นให้เมียอย่างเดียว และเริ่มสอนซางฉีให้เป็นนักสู้ แต่เซียหลังกลับถูกห้ามฝึกต่อสู้เพราะเป็นผู้หญิง หลังจากนั้นเวิ๋นหวู่ก็ฆ่าล้างโคตรไอออนแก๊งค์ และสั่งให้ลูกชายคือซางฉีฆ่าหัวหน้าพวกมัน ซางฉีเมื่อฆ่าหัวหน้าไออนแก๊งค์ได้ ก็หนีพ่อมาอยู่อเมริกา เพราะไม่อยากอยู่กับความเหี้ยมโหดนี้ โดยทิ้งน้องสาวไว้กับพ่อ ต่อมา เซียหลิงก็หนีอีกคน

ปี 2008 โทนี่ สตาร์ค ในวัย 38 ปี ก็คิดค้นผลิตจรวดนามว่า เจอริโก้ ที่มีอำนาจทำลายล้างสูงออกมา เป็นที่สนใจของผู้ก่อการร้ายกลุ่ม “เทนริงส์”  แห่งภาคพิ้นตะวันออกกลาง นาวาอากาศโท เจมส์ โรดส์ หรือ โรดี้ เพื่อนซี้โทนี่ ติดต่อประสานงานให้โทนี่นำจรวดเจอริโก้ ไปพรีเซนท์ให้นายทหารของเพนตากอนชมที่อัฟกานิสถาน

โทนี่และโรดี้ (Iron man 1)

 

ที่อัฟกานิสถาน ระหว่างเดินทางกลับ กลุ่มผู้ก่อการร้ายเทนริงส์สาขาตะวันออกกลาง ได้ลักพาตัวโทนี่เพื่อให้ผลิตจรวดเจอริโก้ให้ ตามคำว่าจ้างของโอบาเดอา สเตน ที่บงการอยู่เบื้องหลัง ระหว่างการลักพาตัว โทนี่โดนสะเก็ดระเบิดลูกปรายวิ่งเข้าเส้นเลือด และกำลังวิ่งเข้าหัวใจ

ศัลยแพทย์ชาวอัฟกานิสถาน ดร.ยินเซนที่ถูกคุมขังด้วยกับโทนี่ จึงใช้กระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่รถยนต์ดันสะเก็ดระเบิดไว้ ซึ่งอยู่ได้ไม่กี่วันโทนี่ก็ต้องตาย เพราะแบตเตอรี่รถยนต์ดันสะเก็ดระเบิดไว้ได้ไม่นาน โทนี่มีเวลาแค่ไม่กี่วันทำระเบิดเจอริโก้ แต่โทนี่เลือกทำเตาปฏิกรณ์อาร์คขนาดเล็กเพื่อแทนแบตเตอรี่ และสร้างชุดเกราะเหล็กเพื่อหนีแทน

โทนี่และดร.ยินเซน (IRONMAN 1)

 

โทนี่หนีสำเร็จ และทิ้งชิ้นส่วนชุดเกราะเหล็กไว้กลางทะเลทราย โรดี้ซึ่งออกตามหาโทนี่ตลอดและไปพบโทนี่กลางทะเลทราย จึงช่วยเหลือไว้ กลุ่มเทนริงส์ไปเก็บชุดเกราะเหล็กและมอบให้โอบาเดอา

 

ที่อเมริกา “เพพเพอร์ พอทท์” ที่ปรึกษาและเลขาโทนี่ ก็รีบมารอต้อนรับโทนี่กลับ เมื่อโทนี่กลับมาถึงนิวยอร์ค มุมมองโทนี่ต่อโลกเปลี่ยนไป โทนี่เลือกที่จะพัฒนาเตาปฏิกรณ์อาร์คต่อ และยกเลิกสายการผลิตอาวุธทั้งหมด

ดูเหมือนชิลด์จะรู้ว่า โทนี่สร้างชุดเกราะเหล็กเพื่อหลบหนีออกมา ผ.อ.ฟิวรี่จึงส่งเอเจ้นท์โคลสันไปหาโทนี่ เพราะเริ่มรู้ถึงศักยภาพโทนี่ว่า อัจฉริยะแค่ไหน

เพพเพอร์และโคลสัน (IRONMAN 1)

 

ขณะเดียวกันนั้น ปริศนายักษ์ตัวเขียว หรือ ฮัลค์ ก็เริ่มมีการพูดถึง มีคนถ่ายวีดีโอขณะฮัลค์อาละวาดไว้ได้ และแพร่ภาพทางอินเตอร์เน๊ต (เบ็ตตี้ยังไม่รู้ว่าแฟนตัวเองคือฮัลค์) ประชาชนต่างพากันหวาดกลัวยักษ์ตัวเขียว

นายพลรอสออกไล่ล่าบรูซ เพราะต้องการเลือดบรูซเพื่อนำไปสร้างสุดยอดทหาร บรูซจึงหนีไปหลบซ่อนยังที่ต่างๆทั่วโลก เพื่อหาทางควบคุมความโกรธและรักษาตัวเอง ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาชิลด์โดยตลอด

นายพล แธดเดออัส รอสส์ ผู้ไล่ล่าฮัลค์ (The Incredible Hulk)

 

ที่มาลิบู แคลิฟอร์เนีย โทนี่ กับ จาร์วิส  เริ่มพัฒนาชุดเกราะเหล็กขึ้นใหม่ เพื่อนำไปต่อสู้กับกลุ่มเทนริงส์ (J.A.R.V.I.S. เป็น A.I. สมองกลคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ มีหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลให้กับโทนี่ ชื่อจาร์วิสมาจากชื่อพ่อบ้านคนเดิมของฮาเวิร์ด)

ที่อัฟกานิสถาน เมื่อโทนี่ในชุดไอออนแมนจัดการกลุ่มเทนริงส์ได้สำเร็จ นักข่าว รัฐบาล และคนทั่วไป ต่างหาคำตอบว่า ชุดเกราะเหล็กหรือไอออนแมน คือใคร และดูเหมือนมีแค่ชิลด์ที่รู้

กำเนิด ไอออนแมน (IRONMAN 1)

 

 ช่วงเวลานี้เองที่โทนี่เริ่มรู้ใจตนว่า เพพเพอร์นั้นสำคัญกับเค้าแค่ไหน และโทนี่กับเพพเพอร์ก็เริ่มมีใจให้กัน เพพเพอร์รู้แผนลับอันชั่วร้ายของโอบาเดอา จึงร่วมมือกับเอเจ้นท์โคลสันและชีลด์ตามจับโอบาเดอา

แต่โอบาเดอาหนีไปได้ และนำชุดเกราะเหล็กตัวแรกของโทนี่ที่ใช้หนีเทนริงส์ที่พัฒนาแล้ว นั่นก็คือ ไอออน มองเกอร์ “Iron Monger” มาต่อสู้กับไอออนแมน ผลคือโอบาเดอาพ่ายแพ้และถูกสังหาร

ที่นิวยอร์ค การปะทะกันของไอออนแมนกันไอออนมองเกอร์ เกิดขึ้นบริเวณหน้าบริษัทน้ำมันร็อกซอนและหน้าตึกสตาร์คอินดัสทรีส์ นักข่าวจึงถามโทนี่ว่า มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรกับไอออนแมนหรือไม่ โทนี่เลือกที่จะเปิดเผยตัวเองว่าเขานี่แหละคือ ไอออนแมน

“ผมคือ.. ไอออนแมน” (IRONMAN 1)

 

ที่รัสเซีย จังหวะเดียวกันนั้น แอนทอน แวนโก้ และ ไอแวน แวนโก้  (ลูกชายแอนทอน) ได้ชมการถ่ายทอดสดตอนโทนี่ประกาศตัวเองเป็นไอออนแมนอยู่ที่รัสเซียด้วย แอนทอนได้สิ้นใจตายในขณะนั้น

ไอแวนที่ฝังใจมาตลอดว่า เป็นเพราะครอบครัวสตาร์ค จึงทำให้เค้าและพ่อต้องมาพบจุดจบอย่างนี้ ไอแวนที่เป็นนักฟิสิกซ์เหมือนพ่อ จึงรื้อฟื้นโปรเจคเตาปฎิกรณ์อาร์คของพ่อ เพื่อหวังแก้แค้นให้พ่อ

ไอแวน แวนโก้ (IRONMAN 2)

 

ที่มาลิบู แคลิฟอร์เนีย คืนนั้นเองผ.อ.ฟิวรี่ ได้เข้าพบโทนี่เป็นครั้งแรกในคฤหาสน์ของโทนี่ เพื่อชวนเข้าร่วมโครงการ ดิ อเวนเจอร์ส ซึ่งโทนี่ขอลุยเดี่ยวดีกว่า แต่ยินดีเป็นที่ปรึกษาของชิลด์ หลังจากโทนี่กับผ.อ.ฟิวรี่ ได้พูดคุยกันเรื่องงานสายลับและงานเฝ้าดูบุคคลที่อาจจะเป็นภัยคุกคามได้ ก็มีชื่อ ดร.บรูซ แบนเนอร์ อยู่ในการเฝ้าระวังของชิลด์ด้วย

โทนี่เสนอว่า บรูซเป็นคนเก่ง น่าจะมีประโยชน์ในทีม ดิ อเวนเจอร์ โทนี่จึงร่วมมืออย่างไม่เป็นทางการกับชิลด์และนายพลรอส ในการค้นหาบรูซเพื่อช่วยเหลือแทนการไล่ล่า

ผอ.หน่วยชิลด์ นิค ฟิวรี่ (IRONMAN 1)

 

อีริค คิลมองเกอร์ ออกจากกองทัพสหรัฐ กลายเป็นนักฆ่าทหารรับจ้างเต็มตัว และเริ่มเสาะหาวิธีเข้าประเทศวากานด้าทวงคืนความเป็นธรรมให้พ่อของตน ซึ่งอีริคห้อยแหวนราชวงศ์เผ่าโกลเด้นไว้ที่คอตลอดตั้งแต่พ่อตายในปี 1992

อีริคกับความแน่วแน่ในการทวงคืนแค้นของพ่อ (Black Panther 1)

 

ปี 2009 ที่อิหร่าน นาตาชา โรมานอฟ หรือ แบล็ควีโด ก็ได้รับภารกิจให้ช่วยเหลือวิศวกรนิวเคลียร์หนีออกมาจากอิหร่าน แต่บัคกี้ หรือ วินเทอร์โซลเยอร์ ก็เข้ามาโจมตีรถของโรมานอฟ

บัคกี้ยิงล้อรถทำให้รถเสียหลักกำลังจะตกหน้าผา โรมานอฟดึงวิศวกรคนนั้นออกมาจากรถได้ทัน บัคกี้ยิงซ้ำอีก โรมานอฟเอาตัวบังกระสุนให้วิศวกรคนนั้น แต่กระสุนก็ทะลุท้องโรมานอฟ และพุ่งไปสังหารวิศวกรนิวเคลียร์คนนั้นตายคาที่

รอยกระสุนที่บัคกี้ยิงโรมานอฟ (Cap2: The Winter Soldier)

 

โรมานอฟเห็นหน้าบัคกี้และจดจำบุคลิกลักษณะการลอบสังหารของบัคกี้ไว้ทั้งหมดได้ โดยเฉพาะแขนเหล็กอันทรงพลัง และหลังจากนั้น แนทก็นำกระสุนลูกนั้นไปตรวจสอบ จึงพบว่า เป็นกระสุนที่ผ่านการตกแต่งจนแกะรอยไม่ได้ ซึ่งมาจากสหภาพโซเวียต หรือ รัสเซีย บ้านเกิดเธอนั่นเอง

 

ที่นิวยอร์ค อเมริกา ต่อมาอีกหกเดือน หลังจากโทนี่ประกาศตัวเองว่าเขาคือไอออนแมน และกลายเป็นคนมีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะฮีโร่คนใหม่ของอเมริกา โทนี่อยากรื้อฟื้นจัดงานสตาร์คเอ๊กโปว์ขึ้นอีกครั้งเหมือนที่พ่อเคยทำ

โทนี่เปิดงานสตาร์คเอ๊กโปว์ (IRONMAN 2)

 

ที่รัฐสภา ตัวแทนฝ่ายรัฐบาล วุฒิสมาชิกเสติร์น (สายลับไฮดร้า) และ จัสติน แฮมเมอร์ ผู้ผลิตอาวุธให้อเมริการายใหม่ (เพราะโทนี่ไม่ผลิตอาวุธแล้ว) พยายามให้โทนี่มอบชุดไอออนแมนให้รัฐบาล แต่โทนี่ไม่ให้

ที่สตาร์คอินดัสทรีส์ ผ.อ.ฟิวรี่ได้ส่ง เอเจ้นท์โรมานอฟ  (แบล็ควีโดว์) เข้ามาแทรกซึมในสตาร์คอินดัสทรีส์ เพื่อประเมินพฤติกรรมโทนี่ ว่าเหมะกับทีมอเวนเจอร์หรือไม่ โรมานอฟจึงแฝงตัวมาเป็นทนายที่ทำงานใกล้ชิดกับเพพเพอร์

โทนี่พบกับแบล็ควีโดว์ครั้งแรก (IRONMAN 2)

 

ที่โมนาโก ฝรั่งเศส ขณะที่โทนี่ไปงานแข่งรถฟอร์มูล่าวัน ไอแวนก็โผล่กลางสนามแข่งรถ พร้อมชุดพลังงานจากเตาปฏิกรณ์อาร์คตรงเข้าเล่นงานโทนี่ โทนี่เกือบแพ้และโดนเล่นงานเสียหายไปเยอะ ไอแวนถูกจับกุม วุฒิสมาชิกเสติร์นได้โอกาสโจมตีโทนี่ว่า ไม่มีความสามารถพอกับชุดไอรอนแมน

ไอแวนในชุดวิปสแปลซ (IRONMAN 2)

 

ที่คุกสหรัฐฯ จัสติน แฮมเมอร์ ช่วยไอแวนแหกคุกออกมา เพื่อให้ไอแวนช่วยสร้างหุ่นยนต์แบบไอออนแมนให้ แต่ไอแวนมีแผนการของตัวเองอยู่แล้ว นั่นคือสร้างหุ่นยนต์ที่ตนควบคุมได้ เพื่อตามฆ่าโทนี่เท่านั้น

ที่ ริโอ เดอจาเนโร บราซิล บรูซหนีมาซ่อนตัวที่นี่ และควบคุมฮัลค์กับความโกรธได้เกือบสมบูรณ์ แต่ยังไม่มีวิธีรักษา นายพลรอสยังไม่ค่อยร่วมมือกับชิลล์เท่าใดนัก ยังอยากครอบครองสูตรยาจอมพลังในร่างบรูซ จึงจัดทีมไล่ล่าบรูซ โดยมีทหารอังกฤษคือ อิมิล บรอนสกี้ เป็นหัวหน้าทีม ตามไปไล่ล่าบรูซถึงบราซิล แต่ก็ยังจับบรูซไม่สำเร็จ

นายพลรอสและผู้หมวดบรอนสกี้ (The Incredible Hulk)

 

ที่มาลิบู แคลิฟอร์เนีย โทนี่กำลังจิตตก จากการที่โดนไอแวนเล่นงาน และพาราเดียมในเตาปฏิกรณ์อาร์คจิ๋วในตัวกำลังเสื่อมสภาพ โทนี่กำลังจะตาย โทนี่จึงยกตำแหน่ง CEO สตาร์คอินดรัสทรี่ส์ให้เพพเพอร์

รัฐบาลส่งโรดี้ไปหาโทนี่ ให้โทนี่มอบชุดเกราะเหล็กกับรัฐบาล โทนี่กำลังจัดงานเลี้ยงวัดเกิดเละเทะในคฤหาสน์ตัวเอง เพพเพอร์ทนไม่ไหวจึงให้โรดี้ช่วยห้าม โรดี้ไปใส่ชุดเกราะมาห้ามโทนี่อาละวาด โทนี่แกล้งแพ้ และปล่อยให้โรดี้เอาชุดเกราะไป

สองเพื่อนรักใส่เกราะปะทะกัน (IRONMAN 2)

 

 

Fury’s Big Week

(สัปดาห์อันหนักหนาสาหัสของฟิวรี่)

 

ปี 2011 ที่อาณาจักรแอสการ์ด โอดินกำลังมอบบัลลังค์แอสการ์ดให้ “ธอร์” บุตรคนโต แต่บุตรบุญธรรม “โลกิ”  ตั้งใจจะป่วนงานนี้ ไม่อยากให้ธอร์ได้เป็นกษัตริย์ โลกิค้นพบทางลับประตูมิติรอยโหว่ของอิกดราซิล ที่ไมต้องใช้สะพานไบฟรอสท์

งานราชาภิเษกของธอร์ (Thor 1)

 

โลกิ เปิดทางลับที่ว่า ให้เหล่ายักษ์น้ำแข็งลอบเข้ามาในคลังอาวุธแอสการ์ดเพื่อช่วงชิงหีบศักสิทธิ์คืน แต่เหล่ายักษ์น้ำแข็งก็โดนทำลายหมดโดย เดสทรอยเยอร์ (หุ่นยนต์สังหารผู้เฝ้าคลังอาวุธ) และหีบศักสิทธิ์ก็ยังไม่ถูกชิงไป

ธอร์อยากบุกโยธันไฮม์ แต่โอดินห้ามไว้เพราะมีสัญญาสงบศึกอยู่ ธอร์ไม่ฟังคำสั่งโอดิน กอรปกับถูกโลกิปั่นหัวด้วย ธอร์จึงกล้าขัดคำสั่งราชาโอดิน เละนำ เลดี้ซิฟกับวอริเออร์ทรี บุกโยธันไฮม์

พวกของธอร์กำลังขอให้ฮัมดาลล์เปิดไบฟรอสท์ (Thor 1)

 

ที่โยธันไฮม์ พวกธอร์เกือบพ่ายแพ้ต่อเหล่ายักษ์น้ำแข็ง โอดินขี่่ม้าวิเศษแปดขาสเลปเนียร์มาช่วยไว้ทัน “ลอฟฟี่” ราชาเหล่ายักษ์น้ำแข็งจึงประกาศกร้าวว่า แอสการ์ดผิดกฎสงบศึก และประกาศสงครามกับชาวแอสกาเดี้ยน

ที่แอสการ์ด โอดินยึดพลังธอร์ใส่ในโยเนียร์ และเนรเทศธอร์มายังมิดการ์ด หรือโลกมนุษย์พร้อมกับโยเนียร์ด้วย โอดินกำกับคาถาใส่โยเนียร์ไว้ว่า ธอร์จะได้พลังและโยเนียร์คืน เมื่อธอร์คู่ควร ธอร์และโยเนียร์ถูกส่งมาที่โลก บริเวณนิวเม็กซิโก

โอดินเสกมนต์ลงโยเนียร์ (Thor 1)

 

ที่นิวเม็กซิโก ดร.เจน ฟอสเตอร์ กับดร.อีริค เซลวิค สองนักฟิสิกซ์ดาราศาสตร์ ผู้ศึกษาวิจัยค้นคว้าเกี่ยวกับสะพานไอสไตร์โรเซ่น (ลักษณะเหมือนสะพานไบฟรอสท์)

เจนตรวจจับสภาพอากาศคล้ายสะพานโรเซ่นได้ที่นิวเม็กซิโก จึงรีบไปที่นั่น เจนขับรถชนธอร์ และเจนพบธอร์ในสภาพไร้พลัง เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา จึงพาไปส่งโรงพยาบาล และทุกคนคิดว่าธอร์เพี้ยนเรื่องเทพ

ดร.เจน ฟอสเตอร์ (Thor 1)

 

ที่มาลิบู โทนี่สติแตก จิตตก จึงหนีมาปลีกวิเวกที่ร้านโดนัท ผ.อ.ฟิวรี่ตามหาโทนี่พบ และเปิดเผยตัวตนแบล็ควีโดว์ให้โทนี่ทราบ ผ.อ.ฟิวรี่เล่าให้โทนี่ฟังว่า ฮาเวิร์ดพ่อโทนี่คือ 1 ใน 3 ผู้ก่อตั้งหน่วยชิลด์

และฮาเวิร์ด ยังฝากบอกผ.อ.ฟิวรี่ไว้ว่า เตาปฎิกรณ์อาร์ค เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของพลังที่ยิ่งใหญ่กว่า และส่งต่อสูตรพลังนี้ให้โทนี่แล้ว มีเพียงโทนี่ที่รู้ พร้อมกับที่ผ.อ.ฟิวรี่สั่งเอเจ้นท์โคลสันให้เฝ้าโทนี่ไว้

แบล็ควีโดว์เผยตัว (IRONMAN 2)

 

โทนี่เปิดดูวีดีโอที่พ่อถ่ายทิ้งไว้ให้เกี่ยวกับสตาร์คเอ็กโปว์ โทนี่จึงเริ่มหาสิ่งที่พ่อทิ้งไว้ให้ และค้นพบตารางธาตุที่ซ่อนไว้ในผังโครงสร้างสตาร์คเอ๊กซ์โปว์จนได้ โทนี่และจาร์วิสช่วยกันจนสร้างธาตุใหม่สำเร็จ

โทนี่เปลี่ยนจากธาตุพาราเดียมในเตาปฎิกรณ์อาร์คจิ๋วที่หน้าอก ไปใช้ธาตุใหม่ที่เพิ่งสร้างสำเร็จแทน ในระหว่างนี้ เอเจ้นท์โคลสันก็ขอตัวโทนี่ เพื่อไปงานด่วนที่นิวเม็กซิโก เพราะมีวัตถุประหลาดตกลงมาที่นั่น ซึ่งไม่มีใครขยับมันได้ (โยเนียร์นั่นเอง)

โทนี่ค้นพบธาตุตัวใหม่ (IRONMAN 2)

 

ที่แอสการ์ด โอดินได้ล่วงรู้ว่า โลกิคิอผู้พาเหล่ายักษ์น้ำแข็งบุกคลังอาวุธตอนนั้น และโลกิก็รู้เช่นกันว่า ตนเองคือยักษ์น้ำแข็งไม่ใช่แแอสการ์เดี้ยน โอดินเสียใจมากที่โลกิกลายเป็นคนเลวร้าย เกิดหมดสติไปและเข้าสู่สภาวะ “โอดินสลีป”

ขณะเดียวกันนั้น เลดี้ซิฟกับวอร์ริเออร์ทรี ก็เพิ่งล่วงรู้ถึงแผนการโลกิเช่นกัน สหายของธอร์ทั้งสี่กำลังจะไปเตือนโอดิน แต่สายไปเสียแล้ว โลกิฉวยโอกาสยึดคฑากุงเนียร์ของโอดิน และครองบัลลังค์แอสการ์ดแล้ว

เลดี้ซิฟกับวอริเออร์ทรีคุกเข่าให้โลกิ (Thor 1)

 

ที่โลก ในงานสตาร์คเอ๊กซ์โปว์ แฮมเมอร์ก็เปิดตัวหุ่นรบที่สร้างโดยไอแวน และเปิดตัวโรดี้ในฐานะวอร์แมชชีนด้วย ไอแวนหักหลังแฮมเมอร์ บังคับทั้งหุ่นรบและวอร์แมชชีน ทำลายงานสตาร์คเอ๊กซ์โปว์และตามฆ่าโทนี่

แบล็ควีโดว์ ช่วยรีบูธชุดเกราะวอร์แมชชีน ทำให้หลุดจากการควบคุมของไอแวนได้ ไอแวนใส่ชุดเกราะมาสู้ สุดท้ายแล้วไอรอนแมนและวอร์แมชชีนก็ช่วยกันปราบไอแวนลงสำเร็จ

สองคู่หูจอมบู๊ (IRONMAN 2)

 

ที่นิวเม็กซิโก เอเจ้นท์โคลสัน/ “เอเจ้นท์ซิตเวลล์” (สายลับไฮดร้า) / และ “เอเจ้นท์บาร์ตัน” (ฮอว์คอาย) ถูกส่งมาสืบสวนเรื่องโยเนียร์ ชิลล์ทำค่ายล้อมโยเนียร์ไว้ และกำลังหาเหตุผลว่าทำไมจึงยกไม่ขึ้น เอเจ้นท์โคลสันยึดงานค้นคว้าของเจนและเซลวิคทั้งหมด

เจนและธอร์ เริ่มมีใจให้กัน (Thor 1)

 

ที่นิวยอร์ค บรูซกลับมาเพื่อค้นหาหนทางรักษาและอยากพบเบ๊ตตี้ด้วย บรูซเล่าให้เบ๊ตตี้ฟังเรื่องจริง ที่พ่อของเธอตามล่าบรูซ ก็เพื่อนำเลือดไปสร้างสุดยอดทหาร

ที่ฐานลับของทหาร นายพลรอส นำเซรุ่มที่อยู่ในไครโอซิงค์ของสตาร์คอินดรัสทรีส์ (โครงการรีเบิร์ธปี 1943 ) ไปฉีดให้บรอนสกี้  ผลทำให้บรอนสกี้กลายเป็นสุดยอดทหารแล้ว (พลังเท่ากัปตัน) แต่สูตรยังไม่สมบบูรณ์

ที่มหาลัยคัลเวอร์ นิวยอร์ค บรอนสกี้และทีมทหารชุดไล่ล่าปะทะกับฮัลค์ที่มหาลัย บรอนสกี้โดนฮัลค์อัดเกือบตาย เหตุการณ์นี้ถูกอัดคลิปไว้และเผยแพร่ทางอินเตอเน๊ตโดยเด็กมหาลัย 2 คน เรื่องปริศนาของยักษ์ตัวเขียว เริ่มแพร่หลายในวงกว้างแล้ว

ฮัลค์เผชิญหน้ากับบรอนสกี้ (The Incredible Hulk)

 

ที่นิวเม็กซิโก ธอร์บุกแคมป์ของชิลล์ เพื่อจะมาเอาโยเนียร์คืน แต่ธอร์ไม่สามารถยกโยเนียร์ได้ เอเจ้นท์โคลสันจับกุมธอร์มาสืบสวน ก่อนที่ดร.เซลวิคจะมาช่วยธอร์ออกไป

ที่แอสการ์ด เลดี้ซิฟกับวอริเออร์ทรี เล่าให้ฮัมดาลล์ฟังในแผนการร้ายของโลกิ และขอให้ฮัมดาลล์ส่งพวกตนลงไปยังโลกเพื่อพาธอร์กลับมา จังหวะเดียวกันโลกิส่งเดสทรอยเยอร์มาเพื่อฆ่าธอร์ และโลกิยังใช้หีบศักดิ์สิทธิ์แช่แข็งฮัมดาลล์ไว้ เพื่อควบคุมสะพานไบฟรอสท์และให้เหล่ายักษ์น้ำแข็งเข้ามาแอสการ์ด

โลกิกลายเป็นยักษ์น้ำแข็งเมื่อใช้หีบศักดิ์สิทธิ์ (Thor 1)

 

ที่นิวเม็กซิโก เลดี้ซิฟกับวอริเออร์ทรีมาตามหาธอร์ที่โลกเพื่อพากลับแอสการ์ด ขณะเดียวกันเดสทรอยเยอร์ก็ตามมาด้วย ธอร์สละชีวิตให้เดสทรอยเยอร์ฆ่าเพื่อปกป้องชาวเมืองและพวกของเจน

ธอร์จึงได้โยเนียร์และพลังของตนเองกลับคืน ธอร์ทำลายเดสทรอยเยอร์ได้ เอเจ้นท์โคลสันคืนงานค้นคว้าให้เจน บุตรแห่งโอดินให้คำมั่นกับบุตรแห่งโคลว่า ชาวแอสการ์เดี้ยนเป็นพันธมิตรกับโลก และธอร์พร้อมปกป้องพิทักษ์โลก

เทพเจ้าสายฟ้าคืนพลัง (Thor 1)

 

ที่แอสการ์ด ฮัมดาลล์ หลุดจากการแช่แข็งได้ และพาธอร์,เลดี้ซิฟ,วอริเออร์ทรี กลับแอสการ์ดเพื่อยับยั้งโลกิ ซึ่งโลกิก็เปิดทางให้ลอฟฟี่ราชาเหล่ายักษ์น้ำแข็ง บุกจนถึงห้องบรรทมของโอดินหวังสังหาร 

ราชินีฟลิกก้า ซึ่งเฝ้าราชาโอดินอยู่พยายามขัดขวาง เข้าแผนโลกิ ที่ใช้กุงเนียร์ฆ่าลอฟฟี่เพื่อให้ราชินีฟลิกก้าเห็นความดีความชอบของตน

โลกิกำลังพ่นคำลวงกับฟลิกก้า (Thor 1)

 

ธอร์มาถึงห้องบรรทมโอดินพอดี และบอกราชินีฟลิกก้าว่า โลกิส่งเดรสทรอยเยอร์ไปเพื่อสังหารธอร์ และธอร์รู้ว่าโลกิจะใช้สะพานไบฟรอสท์ทำลายโยธันไฮม์ทั้งดวงดาว เพื่อเอาใจโอดิน ให้โอดินรับรู้ว่าตนเหมาะสมกับราชาแอสการ์ด

ธอร์ จึงทำลายสะพานไบฟรอสท์ เอาชนะโลกิได้ เวลาเดียวกับที่โอดินตื่นจากการหลับไหล และพบลูกทั้งสองสู้กันที่สะพานไบฟรอสท์พอดี ผลคือโลกิยอมตกไปในห้วงอวกาศ ทุกคนคิดว่าโลกิตาย แต่โลกิยังอยู่ หากแต่ลอยเคว้งคว้างอยู่กลางอวกาศ และถอดร่างมายาไปที่โลก..

โอดินดึงธอร์ ธอร์ดึงโลกิ (Thor 1)

 

ที่ย่านฮาเล็ม นิวยอร์ค บรอนสกี้อยากเอาชนะฮัลค์ จึงฉีดเซรุ่มข้าไปอีก ผลคืออิมิลกลายเป็น แอปบอมิเนชั่น “Abomination” และสู้กับบรูซที่กลายร่างเป็นฮัลค์ ทั้งคู่ปะทะกันสร้างความเสียหายให้ย่านฮาเล็มเป็นอย่างมาก

สุดท้ายแอปบอมิเนชั่นแพ้ฮัลค์ เหตุการณ์นี้ผู้พบเห็นเริ่มรู้สึกว่าฮัลค์ไม่ใช่ศัตรู แต่ก็ไม่ใช่มิตร หลังจากนั้น ชิลล์จึงบีบให้นายพลรอสยุติการไล่ล่าบรูซเสียที

ฮัลค์ปราบแอปบอมิเนชั่น (The Incredible Hulk)

 

ที่นิว เม็กซิโก ผ.อ.ฟิวรี่รื้อฟื้นโปรเจคพีกาซัส  (P.E.G.A.S.U.S)  เพราะเริ่มตระหนักว่า อาจมีภัยคุกคามจากต่างดาวอีก เนื่องด้วยมนุษย์มิได้อยู่เพียงลำพังในจักรวาล จากการที่ธอร์และเดสทรอยเยอร์โผล่มานั่นเอง

ผ.อ.ฟิวรี่ เริ่มคิดจะนำแทซเซอแรคกลับมาวิจัยเพื่อเพื่อผลิตอาวุธในโปรเจคพีกาซัสนี้ จึงได้ทาบทามดร.เซลวิคเพื่อนร่วมงานของเจน มาทำงานร่วมกับชิลด์เพื่อวิจัยพลังงานของแทซเซอแร๊ค โดยได้รับการช่วยเหลือจาก มาเรีย แลมบัวร์ หัวหน้าหน่วยซอว์ด ให้ข้อมูลทางดาราศาสตร์กับเซลวิคเพื่อวิจัยด้วย

ดร.อีริค เซลวิค เข้าร่วมโปรเจคพีกาซัส (Thor 1)

 

ผ.อ.ฟิวรี่ ยังได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ชิลล์เก็บกวาดชิ้นส่วนเดสทรอยเยอร์ไปวิจัยสร้างอาวุธในโปรเจคพีกาซัสเช่นกัน แต่โลกิ ที่ถอดร่างมายามาโลกตามรอยเซลวิคจึงพบว่า ชิลด์เก็บแทซเซอแร๊คหรือสเปซสโตนไว้บนโลก..

โลกิจำแลงกายมาในโปรเจคพีกาซัส (Thor 1)

 

ที่เขตอาร์คติค ขั้วโลกเหนือ ทีมขุดเจาะน้ำมันของรัสเซีย บังเอิญขุดเจอซากเครื่องบินเยอรมันสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2  หน่วยชิลด์ซึ่งติดตามเรื่องกัปตันโรเจอร์มาเนิ่นนาน พอผ.อ.ฟิวรี่ทราบเรื่องจึงรีบสั่งชิลด์ให้ไปกู้เครื่องบินขึ้นมา และพบกัปตันโรเจอร์อยู่ในสภาพถูกแช่แข็งในเครื่องบินรบวัลคีรี่ของเยอรมัน

ที่ฐานบัญชาการลับของชิลด์ นิวยอร์ค กัปตันโรเจอร์ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งหลังจากผ่านไปเกือบ 70 ปี หน่วยชีลด์เคารพกัปตันโรเจอร์มาก เนื่องจากเป็นคนริเริ่มสายงานนี้ก่อนจะเป็นชิลด์ทีเดียว ทั้งยังเป็นเพื่อนสนิทกับผู้ก่อตั้งชิลด์ทั้ง 3 คนอีกด้วย

สตีฟ โรเจอร์ พบ นิค ฟิวรี่ (Cap 1 The First Avenger)

 

 

จบสัปดาห์อันวุ่นวายของฟิวรี่..

 

ผ.อ.ฟิวรี่ เสนอให้รวมทีมอเวนเจอร์ได้แล้ว สภาความมั่นคงโลกจึงแนะนำกึ่งบังคับให้บรอนสกี้อยู่ในทีมอเวนเจอร์ แต่ผ.อ.ฟิวรี่ไม่เห็นด้วย ผ.อ.ฟิวรี่สนใจในตัวบรูซมากกว่า

เอเจนท์โคลสันคิดแผนได้ จึงส่งที่ปรึกษาระดับสูงของชิลด์คือโทนี่ ให้ไปพบนายพลรอสเพื่อขอตัวบรอนสกี้ที่ถูกขังคุกอยู่  โดยหวังให้โทนี่ป่วนจนนายพลรอสไม่ให้ตัวบรอนสกี้ ผลคือสำเร็จ บรอนสกี้ก็ถูกคุมขังตัวไว้ต่อไปอย่างไม่มีกำหนด สภาความมั่นคงโลกจึงทำอะไรไม่ได้

นายพลรอสโดนโทนี่ป่วน (The Incredible Hulk)

 

ที่กัลกัตตา อินเดีย ขณะเดียวกัน ดร.บรูซ แบนเนอร์ ก็หลบมาอยู่อินเดียเพื่อฝึกควบคุมอารมณ์โกรธ ซึ่ง ผ.อ.ฟิวรี่ก็ส่งสายลับชิลด์มาประกบติดตามดูความเคลื่อนไหวบรูซแบบไม่ให้คลาดสายตา

ที่นิวยอร์ค โทนี่ใช้พลังงานบริสุทธิ์จากเตาปฏิกรณ์อาร์คให้พลังงานทั้งตึกสตาร์คทาวน์เวอร์ได้สำเร็จ กัปตันโรเจอร์กำลังค่อยเรียนรู้โลกใหม่ โลกกำลังสงบสุข แต่ก็เพียงไม่นาน..

ที่แซงทัวรี่ วัน ณ กลางอวกาศอันไกลโพ้น ดิออทเทอร์ลูกน้องธานอส ได้พบโลกิเคว้งคว้างอยู่ในอวกาศ จึงพาโลกิไปพบธานอส โลกิบอกธานอสว่า แทซเซอแร๊คอยู่ที่โลก ธานอสรู้ว่าโลกิเป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูง จึงยื่นข้อเสนอให้โลกินำทัพชาวชิทอรี่ของดิออทเทอร์ไปยึดโลก

แซงทัวรี่ ฐานบัญชาการธานอส แหล่งผลิตชิทอรี่ (Guardians of the Galaxy Vol. 1)

 

ธานอสจะได้แทซเซอแร๊ค และโลกิจะได้โลกไปครอง ธานอสมอบคฑาพลังควบคุมจิตใจให้โลกิไว้ใช้เพื่อยึดโลกด้วย ซึ่งยอดคฑานี้มีมายด์สโตนซุกซ่อนอยู่

 

ปี 2012 ที่โปรเจคพีกาซัส นิวเม็กซิโก โลกิวาร์ปมาด้วยพลังของธานอสที่ส่งให้เชื่อมกับสเปซสโตน โลกิใช้คฑาควบคุมจิตใจของฮอว์คอายและดร.เซลวิค โลกิชิงแทซเซอแร๊คไปเพื่อจะเปิดประตูมิติ และนำทัพชิทอรี่บุกโลก คอมมานเดอร์ฮิลล์พยายามยับยั้งฮอว์คอาย แต่ก็ไม่สำเร็จ

ฮอว์คอายแปรพักษ์เพราะโดนโลกิควบคุมจิตใจ (Avenger 1)

 

โปรเจคพีกาซัสระเบิด เพราะพลังงานแทซเซอแร๊คพุ่งสูงเกินไปจากการเปิดประตูมิติ ผ.อ.ฟิวรี่จึงต้องรวมทีมอเวนเจอร์เป็นการด่วน โคลสันไปเชิญโทนี่ แบล็ควีโดว์ไปเชิญบรูซ ผ.อ.ฟิวรี่ไปเชิญกัปตันโรเจอร์

คอมมานเดอร์ มาเรีย ฮิลล์ รองผู้อำนวยการของชิลด์ ไปเตรียมฐานทัพลอยฟ้าหรือ เฮลิแคเออร์ “Helicarrier” ซึ่งคือฐานทัพบัญชาการเพื่อสงครามนี้โดยเฉพาะของชิลด์

มาเรีย ฮิลล์ รองผ.อ.หน่วยชิลด์ (Avenger 1)

 

ที่เยอรมัน ชิลด์ตรวจพบโลกิปรากฎตัวที่ฮัมบูร์ก ผ.อ.ฟิวรี่จึงส่งกัปตันโรเจอร์และแบล็ควีโดไปจับตัว ไอออนแมนมาช่วยอีกคน โลกิจึงยอมให้จับ ขณะเดินทางกลับ ธอร์ ก็ปรากฎตัวขึ้น เพราะโอดินส่งธอร์ลงมาโลกด้วยพลังดาร์คเอเนจี้

ทั้งสี่นำโลกิกลับฐานทัพลอยฟ้า โลกิตั้งใจให้ถูกจับอยู่แล้ว เพราะต้องการให้ทีมอเวนเจอร์แตก โลกิใช้ความเจ้าเล่ห์ปั่นหัวทุกคนจนแตกคอ และทะเลาะกันรุนแรง

ทีมอเวนเจอร์ปั่นป่วน (Avenger 1)

 

ที่เฮลิแคเออร์ ที่สำคัญ โลกิตั้งใจให้บรูซโกรธและกลายเป็นฮัลค์ เพื่อให้ฮัลค์ทำลายเฮลิแคเออร์ จังหวะนั้นฮอว์คอายก็นำกองกำลังทหารรับจ้างบุกเฮลิแคเออร์  ฮอว์คอายยิงธนูระเบิดใส่ใบพัดเครื่องยนต์ ผลทำให้ฐานทัพลอยฟ้ากำลังตก

เกิดการต่อสู้กันระหว่างพวกของฮอว์อายกับพวกของชิลด์อย่างหนักหน่วง บรูซกลายเป็นฮัลค์และหล่นลงพื้นโลก ไอออนแมนพยายามช่วยไม่ให้เฮลิแคเออร์ตก กัปตันโรเจอร์ต่อสู้กับผู้บุกรุก แบล็ควีโดว์กับฮอว์คอายปะทะกัน ก่อนที่แบล็ควีโดว์จะทำให้ฮอว์คอายเพื่อนซี้คืนสติได้สำเร็จ

โลกิ หลอกล่อธอร์จนหนีจากที่คุมขังได้ และขังธอร์ไว้ซะเอง โลกิปล่อยกรงขังธอร์ลงพื้นโลก ขณะโลกิกำลังหนี โคลสันมาขวางไว้ จึงถูกโลกิฆ่า และโลกิหนีไปได้ ผ.อ.ฟิวรี่จึงใช้การตายของโคลสัน ปลุกใจคนในทีมอเวนเจอร์ให้ฮึดสู้

โคลสัน จะคืนชีพอีกครั้งในซีรีย์ เอเจ้นท์ออฟชิลด์ (Avenger 1)

 

ที่ตึกสตาร์คทาวเวอร์ นิวยอร์ค  โลกิให้ดร.เซลวิค ใช้สตาร์คทาวน์เวอร์เป็นที่ตั้งเครื่องเปิดประตูมิติของแทซเซอแร็ค ไอออนแมนพยายามทำลายแทซเซอแร็ค แต่ทำลายไม่ได้

แรงกระแทกที่ไอออนแมนยิงทำให้ดร.เซลวิคคืนสติ โลกินำทัพชิทอรี่บุกโลกทำลายนิวยอร์คย่อยยับ ทีมอเวนเจอร์ต้านทานไว้สุดกำลัง คฑาโลกิหลุดมือ และฮัลค์ก็อัดโลกิเละหมดสภาพ

“เทพกระจอก” ฮัลค์กล่าวไว้ (Avenger 1)

 

จนกระทั่งสภาความมั่งคงโลก เห็นชอบสั่งยิงนิวเคลียร์ถล่มนิวยอร์ค ซึ่งผ.อ.ฟิวรี่ไม่เห็นด้วย เพราะจะมีคนตายเป็นล้านคน แต่ผ.อ.ฟิวรี่ก็ยับยั้งไม่ทัน นักบินชิลด์ได้ปล่อยจรวดนิวเคลียร์พุ่งออกไปแล้ว

ที่ซางทัม แซงทอรัม ด้านทางอันเชียนวัน จอมเวทย์สูงสุดของโลก ก็เปิดประตูเวทย์วงแหวนจากคามา-ทาจมาที่เขตเวทย์ในนิวยอร์ค เพื่อป้องกันเขตเวทย์เสียหายจากการต่อสู้ของอเวนเจอร์กับชิทอรี่ แต่อันเชียนวันไม่เข้าไปยุ่งในศึกนี้..

ดร.เซลวิคคืนสติเพราะหัวกระแทก จึงบอกแบล็ควีโดว์ให้ลองใช้คฑาโลกิจิ้มไปที่แทซเซอแร็ค เพื่อปิดประตูข้ามจักรวาลนี้ เพราะไอเทมทั้งสองอาจเป็นอัญมณีขุมพลังกลุ่มเดียวกัน

แบล็ควีโดว์พยายามปิดการทำงานแทซเซอแร็ค (Avenger 1)

 

เคท บิชอป สาวน้อยวัย 10 ขวบ บ้านของเธออยู่ใจกลางสมรภูมิพอดี เคทมองออกไปข้างนอก และเห็นวีรกรรมอันกล้าหาญของ คลิ้นท์ บาร์ตัน หรือ ฮอว์คอาย ที่กล้าหาญต่อกรกับเอเลี่ยน ทั้งที่ไม่มีพลังพิเศษ มีเพียงธนูคู่ใจของเขา เคทจึงยึดถือเอาฮอว์คอายเป็นแบบอย่างในการเติบโตเพื่อให้เป็นเช่นฮอว์คอาย เหตุการณ์นี้ทำให้พ่อของเคทตาย และ เอเลนอร์ บิชอป แม่ของเคท ก็เข้ามาดูแลกิจการแทนสามี

เคทมองดูคลิ้นท์ด้วยความทึ่ง  (Hawkeye ss 1)

 

ไอออนแมนตัดสินใจบินไปจับจรวดนิวเคลียร์ และพุ่งเข้าไปในประตูมิติบนฟ้า โยนใส่ยานแม่ของชิทอรี่แทน ไอออนแมนเกือบตายแต่ก็รอดมาได้ สงครามจบลง ธอร์คุมตัวโลกิกลับแอสการ์ด และนำแทซเซอแร็คกลับไปเก็บที่คลังอาวุธวังแอสการ์ดด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งมีชีวิตต่างดาวรุกรานโลกเพราะแทซเซอแร๊คอีก แต่ชิลด์ ยังเก็บคฑาโลกิที่มีอัญมณีจิตใจเอาไว้

อเวนเจอร์ รุ่นก่อตั้ง (Avenger 1)

 

ทุกๆคนในทีมอเวนเจอร์ถูกสื่อต่างๆและรัฐบาลจับตา ผู้คนต่างฮือฮาและยกย่องซุปเปอร์ฮีโร่ของพวกเขา/ ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้า กลายเป็นเทพเจ้าจากตำนานที่มีตัวตนจริงๆ/ กัปตันอเมริกา ผู้เป็นฮีโร่วีรบุรษสงครามโลกครั้งที่ 2  ฟื้นคืนชีวิตกลับมาอีกครั้ง/ ฮัลค์ มนุษย์ยักษ์ร่างเขียวผู้คนเลิกหวาดกลัว แต่กลับกลายเป็นฮีโร่สำหรับเด็กๆ /และไอออนแมนผู้เป็นฮีโร่ที่เปิดตัวคนเดียว ฉายเดี่ยวมานาน ก็ได้รวมทีมเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ซักที แต่หน่วยชิลด์ ก็ถูกเปิดเผยการมีตัวตน ไม่อาจเหมือนเดิมอีกต่อไป

ผ.อฟิวรี่ และ คอมมานเดอร์ฮิลล์ ยังคงเหนื่อยกันต่อไป (Avenger 1)

 

ด้วยเหตุการณ์ชิทอรี่ถล่มนิวยอร์คครั้งนี้ ชิลด์จึงเริ่ม โปรเจคอินไซต์  “Project Insight” เพื่อเฝ้าระวังทุกๆอย่างบนโลกนี้ อินไซต์เป็นระบบสอดแนมทุกชีวิตในโลกและอาวุธทำลายล้างมหาประลัย โดยมีเลขากรรมมาธิการอเล๊กซานเดอร์ เพียซ เป็นหัวหน้าโครงการ แต่เพียซมีแผนการจะเปลี่ยนอินไซต์ให้เป็นของไฮดร้าควบคุมเสียเอง

โปรเจคอินไซต์ (Cap 2 Winter Soldier)

 

โทนี่เริ่มจิตตกอีกครั้ง สาเหตุจากการเกือบตายครั้งชิทอรี่บุกโลก โทนี่จึงเริ่มคิดหาระบบป้องกันที่เบ็ดเสร็จ  เริ่มสร้างไอออนลีเจี้ยน และโทนี่ก็ยังคิดจะปรับปรุงตึกสตาร์คทาวเวอร์ ให้เป็น “Avengers Headquarters” ฐานบัญชาการทีมอเวนเจอร์แทน

 

ที่นิวยอร์ค เอเดรี่ยน ทูมส์ (Adrian Toomes) ผู้รับเหมาที่ทำสัญญากับเมืองนิวยอร์คไว้ ก็ขอสัมปทานในการเก็บกู้ซากของชิทอรี่ในเมืองนิวยอร์คทั้งหมด ซึ่งเอเดรี่ยนลงทุนหมดตัวเพื่อจ้างแรงงาน เพื่องานนี้โดยเฉพาะ

เอเดรี่ยน ทูมส์ (Spider-Man 1: Homecoming)

 

แต่แล้วรัฐบาลก็จัดตั้งหน่วยแดมเมจคอนโทรล (Damage Control) ขึ้นมา โดยมีโทนี่ให้เงินทุนสนับสนุน แดมเมจคอนโทรลเข้ามายึดงานรับเหมาสัมปทานเก็บกู้ซากชิทอรี่ของเอเดรี่ยน ทำให้เอเดรี่ยนขาดทุนไปเยอะ

เอเดรี่ยนเห็นว่าตนเองถูกเอาเปรียบ จึงคิดจะนำเศษซากชิทอรี่ที่เก็บมาได้ก่อนโดนยึด มาสร้างอาวุธวิทยาการล้ำๆ และนำออกขายในตลาดมืดแทน โดยมีลูกน้องเก่าสามคนช่วยเหลืองานตลาดมืดนี้ด้วย

ด้านทาง เอเลนอร์ บิชอป ต้องยอมร่วมมือกับ คิงพิน ทำเรื่องผิดกฎหมายหลายๆอย่างในตลาดมืดของนิวยอร์ค เพราะสามีเธอติดหนี้คิงพิน เคทที่เป็นลูกสาวนั้นไม่รู้เรื่องที่แม่ทำเลย เพราะเคทยังเด็กมากอายุเพียง 10 ขวบเท่านั้น

เอเลนอร์ และ คิงพิน (Hawkeye ss 1)

 

ที่หน่วยชิลด์ ด้านทาง เอวา สตาร์ สาวน้อยผู้ได้ผลกระทบจากรังสีควอนตัม ก็เติบโตกลายเป็น โกสท์ สายลับของชิลด์ที่ปฎิบัติการด้านมืดให้ชิลด์ เรื่องเลวร้ายต่างๆที่ชิลด์ไม่สามารถออกหน้าเองได้ ก็จะเป็นโกสท์ที่ปฎิบัติการให้ เพราะชิลด์สัญญากับโกสท์ว่าจะรักษาโกสท์ให้หายจากอาการอนุภาคในร่างไม่สเถียร โกสท์จึงยอมทำงานสกปรกให้ชิลด์นั่นเอง

โกสท์ หรือ เอวา สตาร์ (Ant-Man 2)

 

สก็อต แลงค์ (Scott Lang) วิศวกรไฟฟ้าที่มีฝีมือย่องเบาระดับพระกาฬ ได้ทำการบุกเข้าไปในศูนย์ใหญ่ของ วิสต้าคอร์ป (Vistacorp Headquarters) ซึ่งเป็นบริษัทที่สก็อตทำงานอยู่ เพื่อแฮคเงินในบริษัทไปคืนลูกค้าที่โดนบริษัทตนเองโกง ผลทำให้สก็อตต้องโทษจำคุก 3 ปีทันที สก็อตโดนเมียฟ้องหย่า และเสียสิทธิ์การเลี้ยงดูลูกสาวนับตั้งแต่นั้น

สก็อต แลงค์ ติดคุกเพราะทำผิดเพื่อสิ่งที่ชอบธรรม (Ant-Man 1)

 

ที่ซานฟรานซิสโก บริษัทพิมเทคโนโลยี ดร.ดาเรส ครอสส์ หนึ่งในบอร์ดบริหารพิมเทคโนโลยี ลูกศิษย์คนโปรดของดร.พิม เริ่มระแคะระคายตำนานเรื่อง แอนท์-แมน สายลับผู้ลึกลับแห่งหน่วยชิลด์ ที่มีวิทยาการย่อส่วน ว่าแอนท์-แมนก็คือดร.พิมนั่นเอง

แต่ดร.พิมปฎิเสธดร.ครอสส์ตลอด เพราะไม่ต้องการให้วิทยาการย่อส่วนนี้เผยแพร่ออกไป ดร.ครอสส์จึงมีใจออกห่างดร.พิม เพราะโกรธที่ไม่ยอมสอนวิทยาการย่อส่วนนี้ให้ ดร.ครอสส์เริ่มแอบวิจัยวิทยาการย่อส่วนเอง และเริ่มคิดฮุบบริษัทพิมเทคโนโลยีซะเอง

ดร.พิม และ ดร.ครอสส์ (Ant-Man 1)

 

ปี 2013 หลังจาก อัลดริดส์ คิลเลี่ยน เก็บความแค้นโทนี่ไว้นับสิบปี ตอนนี้คิลเลี่ยนก็มีบริษัททางชีววิทยาศาสตร์ที่ชื่อว่า A.I.M. โดยมีการช่วยเหลือจากองค์กรลับในยุโรป

บารอน วอน สตรัคเกอร์ เป็นผู้นำองค์กรลับที่ว่า ซึ่งสตรัคเกอร์ก็คือไฮดร้าอดีตชิลด์นั่นเอง  องค์กรของสตรัคเกอร์ เข้ามาช่วยเรื่องวิจัยโครงการเอ๊กซ์ตรีมมิสของคิลเลี่ยน

อัลดริดส์ คิลเลี่ยน (IRONMAN 3)

 

จนในที่สุดโครงการเอ็กซ์ตรีมมิสก็สำเร็จจนได้ ทำให้ผู้ถูกทดลองใช้พลังเหนือมนุษย์ได้ ร่างกายงอกใหม่ได้ แต่มีผลข้างเคียงคือ ผู้ทดลองบางคนถ้าร่างกายไม่รับจะร้อนจนระเบิด

คิลเลี่ยน ทำการแอบอ้างชื่อกลุ่มผู้ก่อการร้ายเท็นริงส์ โดยจ้างนักแสดงติดยาชื่อ เทรเวอร์ สแล็กซ์เทอรี่ มาศัลยกรรม และตั้งชื่อว่า แมนดาริน เพราะคิลเลี่ยนไม่รู้ว่าจริงๆแล้วผู้นำเทนริงส์ชื่อ ซู เวิ๋นหวู่ เรื่องนี้ทำให้เวิ๋นหวู่ก็เริ่มจะหงุดหงิดกับการโดนแอบอ้าง แถมไปตั้งชื่อแมนดารินซะดูตลกไปอีก

เทรเวอร์ หรือ แมนดาริน หัวหน้าเทนริงส์ตัวปลอม (IRONMAN 3)

 

แมนดาริน หรือ เวิ๋นหวู่ตัวปลอม ประกาศสงครามกับอเมริกา โดยมีคิลเลี่ยนชักใยอยู่เบื้องหลัง คิลเลี่ยนนำผู้ทดลองเอ็กซ์ตรีมมิสที่ผิดพลาดไประเบิดสถานที่สำคัญๆในอเมริกา ซึ่งเป็นระเบิดที่ไม่สามารถเกาะรอยได้ ชาวอเมริกันต่างหวาดกลัวแมนดาริน

แฮปปี้ ลูกน้องคนสนิทของโทนี่อยู่ในเหตุการณ์ระเบิดโรงหนังของแมนดารินด้วย ผลทำให้แฮปปี้บาดเจ็บสาหัส โทนี่จึงประกาศเป็นศัตรูกับแมนดารินออกสื่อโทรทัศน์

แฮปปี้บาดเจ็บหนัก (IRONMAN 3)

 

ที่มาลิบู แคลิฟอร์เนีย โทนี่กับจาร์วิสเริ่มสืบหาการระเบิดรูปแบบเดียวกับระเบิดของแมนดาริน จนไปพบเบาะแสที่รัฐเทนเนสซี่ จาร์วิสจึงโปรแกรมแผนการบินของชุดไอออนแมนไปรัฐเทนเนสซี่เพื่อสืบสวน แต่ยังไม่ทันได้ไปไหน ขณะนั้นเองคิลเลี่ยนส่งลูกน้องไปถล่มคฤหาสน์ของโทนี่

ที่รัฐเทนเนสซี่ โทนี่หนีมาได้แต่สลบไป เพราะชุดเกราะไอออนแมนพาโทนี่บินไปเทนเนสซี่ตามที่จาร์วิสโปรแกรมไว้ โทนี่ตื่นมาพร้อมกับพลังงานในชุดไอออนแมนหมด จึงไปพักบ้านเด็กคนนึงชื่อ ฮาลี่ คีเนอร์

โทนี่นั่งเซ็งกับชุดของตน (IRONMAN 3)

 

โทนี่ซ่อมเกราะมาร์ค 42 และชาร์ทพลังชุดเกราะนี้ที่บ้านฮาลี่ พร้อมกับสืบเรื่องราวจนพบความจริงว่า ระเบิดมาจากร่างกายมนุษย์ โทนี่สืบหาจนพบที่กบดานแมนดารินที่ไมอามี่ ขณะเดียวกันคิลเลี่ยนก็จับเพพเพอร์ไปฉีดเอ็กตรีมมิส

ที่ไมอามี่ โทนี่รู้แล้วว่าแมนดารินคือตัวปลอม และเป็นหุ่นชักใยของคิลเลี่ยน แต่โทนี่ก็โดนคิลเลี่ยนจับได้ แถมยังล่อจับโรดี้ในชุดวอร์แมชชีนได้ด้วย

ตอนนี้วอร์แมชชีนถูกชาวอเมริกันเรียกว่า ไอออนแพรททริออท (IRONMAN 3)

 

ที่แอร์ฟอซวัน คิลเลี่ยนให้ลูกน้องใส่ชุดวอร์แมชชีนไปจับตัวประธานาธิปดีเอลลิสที่แอร์ฟอซวัน คิลเลี่ยนจะฆ่าประธานาธิปดีเอลลิสออกอากาศถ่ายทอดสดให้อเมริกาได้ดู

ที่ท่าเรือบริษัทร็อกซอน โทนี่และโรดี้หนีได้และรีบไปช่วยประธานาธิปดีเอลลิสจากคิลเลี่ยน โรดี้ช่วยประธานาธิปดีเอลลิสได้สำเร็จ โทนี่เรียกหุ่นไอออนลีเจี้ยนทุกตัวมาช่วยสู้ แต่โทนี่ก็กำลังจะแพ้คิลเลี่ยน เพ็พเพอร์ในร่างเอ็กซ์ตรีมมิส มาช่วยโทนี่ไว้ และฆ่าคิลเลี่ยนลงไป

เพ็พเพอร์มีพลังเหนือมนุษย์ (IRONMAN 3)

 

เทรเวอร์หรือแมนดาริน หัวหน้าเทนริงส์ตัวปลอมถูกจับ และแน่นอนว่า เวิ๋นหวู่ หัวหน้าเทนริงส์ตัวจริง สั่งลูกน้องมานำตัวเทรเวอร์แหกคุกออกไป เพื่อไปรับโทษในความผิดที่แอบอ้างชื่อของเขา เทรเวอร์ถูกจับไปขังคุกใต้ดินที่จีน ฐานลับใหญ่ของเทนริงส์

โทนี่ สั่งทำลายไอออนลีเจี้ยนรุ่นแรกทั้งหมด รักษาเพ็พเพอร์ให้กลับมาเป็นปกติสำเร็จ และโทนี่ยังให้หมอผ่าตัดเอาสะเก็ดระเบิดทั้งหมดออกจากร่างกาย แถมยังถอดอาร์ครีแอคเตอร์ออกจากหน้าอกอีกด้วย 

ที่แอสการ์ด โลกิถูกคุมขังไว้ในคุกแน่นหนา ราชินีฟลิกก้ายังรักและเป็นห่วงโลกิอยู่เสมอ ราชินีใช้ร่างมายาไปเยี่ยมโลกิบ่อยๆ ธอร์,เลดี้ซิฟและวอริเออร์ทรี ได้ทำการรบเคียงบ่าเคียงไหล่ไปทั่วทั้ง 9 อาณาจักร เกิดความสงบสุขกับอาณาจักรทั้ง 9

ราชาโอดินภูมิใจในตัวธอร์มาก และคิดว่าธอร์เหมาะสมแล้วกับการเป็นกษัตริย์แอสการ์ดต่อจากตน โอดินอยากให้ธอร์สมรสกับเลดี้ซิฟ แต่ในใจธอร์มีเพียง เจน ฟอสเตอร์ เท่านั้น

เฟรนด์โซน เลดี้ซิฟกับธอร์ (Thor:2 The Dark World)

 

สะพานไบฟรอสท์ก็ซ่อมเสร็จแล้วจากพลังของแทซเซอแร็ค แต่เหตุการณ์ในรอบพันปีก็ใกล้มาถึง การเรียงตัวกันของดวงดาวทั้ง 9 อาณาจักรในรอบพันปี ทำให้มิติต่างๆในอาณาจักรทั้ง 9 ปั่นป่วน รวมถึงโลกมนุษย์หรือมิดการ์ดด้วย

ที่โลกมนุษย์ ลอนดอน อังกฤษ เครื่องมือของเจนพบการเปลี่ยนแปลงของมิติที่ลอนดอน เจนรีบไปที่นั่น ตามคำเชิญของ ดร.เซลวิค เจนพบว่ามิติของโลกถูกเชื่อมต่อกับมิติของที่อื่นๆ ซึ่งเจนก็ไม่รู้ว่ามิติอันแตกแยกนี้อยู่บนโลกหรือดวงดาวอืนๆ และเจนหลุดเข้าไปในมิติอิกดราซิล ที่ราชาบอร์บิดาแห่งโอดินปู่แห่งธอร์ได้ซ่อนอีเธอร์ไว้

เจนเข้าสู่ช่องโหว่ของมิติอิกดราซิล ที่ซ่อนอีเธอร์ (Thor:2 The Dark World)

 

เจนเอื้อมมือไปสัมผัสอีเธอร์ที่อยู่ใจกลางอุกกาบาตในมิติอิกดราซิลด้วยความไม่รู้ อีเธอร์จึงไหลเข้าสู่ร่างกายเจน ด้วยพลังของอีเธอร์ที่เข้าครอบครองร่างของเจนทำให้เจนสลบไป

ที่แอสการ์ด ฮัมดาลล์ซึ่งจับตาเจนตลอดเวลามองหาเจนไม่พบ (ตามคำสั่งธอร์) ฮัลดาลล์จึงบอกธอร์ว่า เค้าไม่เห็นเจนอยู่บนโลก (เจนอยู่ในมิติอื่น ฮัมดาลล์จึงไม่เห็น) ธอร์จึงใช้สะพานไบฟรอสท์มายังโลกเพื่อมาหาเจน เจนฟื้นขึ้นมาหลังจากสลบไป 5 ชั่วโมง ใครที่แตะต้องตัวเจน จะถูกพลังอีเธอร์เล่นงาน ธอร์พบความผิดปกติจึงพาเจนไปแอสการ์ดเพื่อรักษา 

ที่มุมมืดมุมหนึ่งในจักรวาล “มาลาคิธ” ราชาแห่งสวาทาลฟ์ไฮม์ และเหล่าดาร์คเอลฟ์ที่เหลือ ก็ตื่นจากการหลับไหล ด้วยมาลาคิธรับรู้ถึงพลังอีเธอร์ มาลาคิธจึงรีบตามพลังงานอีเธอร์ไปทันที ซึ่งที่นั่นคือ แอสการ์ด

มาลาคิธตื่นหลังจากผ่านไปหลายพันปี (Thor:2 The Dark World)

ที่แอสการ์ด ราชาโอดินพบอีเธอร์อยู่ในตัวเจน ซึ่งอีเธอร์จะดูดกินพลังชีวิตเจนไปเรื่อยๆจนหมด และเจนจะตาย เนื่องด้วยร่างกายมนุษย์อ่อนแอ โอดินไม่รู้วิธีรักษาหรือวิธีนำออกมา

ทันใดนั้น มาลาคิธก็นำทัพดาร์คเอลฟ์บุกวังแอสการ์ดเพื่อชิงอีเธอร์คืน การบุกของดารคเอลฟ์ครั้งนี้สามารถพรางตัวหลบซ่อนจากสายตาฮัมดาลล์ได้

ฮัมดาลล์ ผู้พิทักษ์แอสการ์ด (Thor:2 The Dark World)

 

เหตุการณ์นี้อัลกริมลูกน้องมาลาคิธได้สังหารราชินีฟลิกก้า เนื่องด้วยราชินีฟลิกก้าปกป้องเจนจากมาลาคิธ ธอร์มาทันช่วยเจน แต่ไม่สามารถช่วยราชินีฟลิกก้าทัน มาลาคิธขณะนั้นยังสู้ธอร์ไม่ได้ อัลกริมจึงพามาลาคิธหนีไป

ทุกคนต่างเศร้าโศกเสียใจกับการจากไปของราชินีฟลิกก้ารวมถึงโลกิที่อยู่ในคุกด้วย ราชาโอดินสั่งปิดสะพานไบฟรอสท์ไม่ให้ใครเข้า-ออกอาณาจักรแอสการ์ดได้ และขังเจนไว้เพื่อล่อมาลาคิธ

มาลาคิธสู้ฟลิกก้าไม่ได้ (Thor:2 The Dark World)

 

ธอร์ไม่เห็นด้วย เพราะธอร์คิดว่าวิธีนี้จะทำให้ชาวแอสกาเดี้ยนอาจล้มตายจากสงคราม ธอร์อยากให้มาลาคิธดูดอีเธอร์ออกจากตัวเจน แล้วธอร์จะใช้โยเนียร์ทำลายอีเธอร์ซะ  ธอร์จึงให้เลดี้ซิฟช่วยเจนออกมา และให้เหล่าวอริเออร์ทรีคอยขัดขวางทหาร

ธอร์ยังพาโลกิแหกคุก และขอให้โลกิช่วยพาออกจากแอสการ์ดที่ประตูมิติลับซึ่งโลกิรู้อยู่คนเดียว โลกิอยากแก้แค้นให้ท่านแม่ จึงช่วยธอร์และเจนหนีออกจากแอสการ์ด มุ่งหน้าสู่สวาทาลฟ์ไฮม์ ที่ซึ่งมาลาคิธและดาร์คเอลฟ์ซ่อนตัวอยู่

คณะเดินทางของธอร์ (Thor:2 The Dark World)

 

ที่สวาทาลฟ์ไฮม์ เมื่อมาถึง โลกิร่วมมือกับธอร์ใช้มายาหลอกให้มาลาคิธดูดอีเธอร์ออกจากเจนได้สำเร็จ ขณะอีเธอร์ยังไม่หลอมรวมกับมาลาคิธ ธอร์ใช้โยเนียร์ฟาดสายฟ้าใส่อีเธอร์เพื่อหวังทำลาย

แต่อีเธอร์ มิอาจถูกทำลายได้ด้วยพลังสายฟ้าของธอร์ จึงกลับมารวมตัวกันใหม่และหลอมรวมเข้ากับมาลาคิธโดยสมบูรณ์ ธอร์และโลกิต่อสู้กับอัลกริมและดาร์คเอลฟ์ โลกิปกป้องธอร์และถูกอัลกริมสังหาร (โลกิแกล้งตายด้วยมายา)

โลกิแกล้งตาย (Thor:2 The Dark World)

 

ธอร์เศร้าเสียใจมาก และมาลาคิธหนีไปได้อีกครั้ง ราชาโอดินส่งอานเฮอญ่าไปสวาทาลฟ์ไฮม์เพื่อสืบเรื่องราว โลกิจึงใช้มายาปลอมตัวเป็นอานเฮอญ่ากลับไปรายงานโอดินว่า ตนเองตายแล้ว ส่วนเจนและธอร์ ก็หาหนทางออกจากอาณาจักรสวาทาลฟ์ไฮมกลับโลกได้

ที่โลก เจนและดร.เซลวิค ช่วยกันหาจุดที่ดาวเรียงกันและส่งพลังสูงสุดให้อีเธอร์ และพบว่าที่นั่นคือเมืองกรีนิช อังกฤษ ธอร์รีบไป และพบมาลาคิธกำลังใช้พลังอีเธอร์ทำให้จักรวาลมืดมิด ธอร์เข้าขัดขวางและสังหารมาลาคิธได้สำเร็จ และนำอีเธอร์กลับไปแอสการ์ด

มาลาคิธในร่างพลังสูงสุด (Thor:2 The Dark World)

 

ที่แอสการ์ด ธอร์สั่งให้เลดี้ซิฟกับโวลสเต็กซ์นำอีเธอร์เดินทางไปโนวแวร์ หลังจากนั้นธอร์ก็เข้าพบราชาโอดิน ซึ่งก็คือโลกิใช้มายาแปลงกายเป็นราชาโอดิน ธอร์ไม่ขอรับตำแหน่งกษัตริย์ตอนนี้ ธอร์อยากไปโลกอยู่กับเจน แน่นอนว่าโลกิในร่างโอดินก็ตกลงแน่นอน ธอร์จึงให้ฮัมดาลล์ส่งไปโลกทันที

ที่โนวแวร์ เลดี้ซิฟกับโว้ลสเต๊กซ์นำอีเธอร์มาฝากให้ ทานิเลีย ทิวาน “เดอะคอลเลคเตอร์” เก็บรักษาไว้ เพราะแอสการ์ดเห็นว่า ที่อาณาจักรแอสการ์ดนั้นมีอินฟินิตี้สโตนอยู่ชิ้นนึงแล้ว นั่นก็คือ แทซเซอแร็ค หรือ สเปซสโตน แอสการ์ดคิดว่า อัญมณีพลังไม่ควรอยู่ด้วยกัน จึงนำมาให้ทิวานเก็บดีกว่า

เดอะคอลเลคเตอร์รับอีเธอร์จากแอสการ์เดี้ยนทั้งสอง (Thor:2 The Dark World)

 

ที่โลก โลกิใช้มนต์ลบความจำโอดิน และนำมาปล่อยไว้ที่บ้านพักคนชราในนิวยอร์ค แต่โอดินนั้นคลายมนต์สะกดของโลกิได้แทบจะทันที แต่เหตุที่โอดินไม่กลับแอสการ์ด เพราะโอดินรู้ตัวว่าอีกไม่นานตนเองจะสิ้นอายุขัย จึงขออยู่เงียบๆที่โลกดีกว่า

 

ปี 2014 ที่วอชิงตันดีซี ผ.อ.ฟิวรี่ เริ่มระแคะระคายว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลในชิลด์ ผ.อ.ฟิวรี่ไม่ไว้ใจใครนอกจากคอมมานเดอร์ฮิลล์ จึงให้คอมมานเดอร์ฮิลล์เริ่มทำการสืบสวนภายในชิลด์อย่างลับๆ

ผ.อ.ฟิวรี่ ยังส่งเอเจ้นท์ 13 หรือ ชารอน คาเตอร์ หลานของเพ็กกี้ผู้ก่อตั้งชิลด์ แฝงตัวเป็นเพื่อนบ้านกัปตันโรเจอร์เพื่อเฝ้าระวัง และให้ชารอนรายงานโดยตรงกับผ.อ.ฟิวรี่คนเดียว ซึ่งขณะนี้กัปตันโรเจอร์เป็นเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานให้ชิลด์เต็มตัว

ชารอน คาเตอร์ (cap 2 Winter Soldier)

 

บารอน วอน สตรัคเกอร์ สายลับไฮดร้าของชิลด์ที่ประจำอยู่ในยุโรป ก็ ได้รับคฑาโลกิจากสายลับไฮดร้าในชิลด์ที่แอบนำออกมาจากอเมริกาจนได้สำเร็จ และเริ่มร่วมมือกับดร.ลิสก์วิจัยคฑาโลกิ ทั้งสองมีความเห็นว่า จะต้องหามนุษย์มาทดลองกับพลังในคฑานี้..

 

ที่ประเทศโซโคเวีย บารอน วอน สตรัคเกอร์ จึงนำกองกำลังทหารไฮดร้าเข้าไปรุกราน เพื่อหวังที่จะปั่นป่วน หลอกล่อหาผู้ทดลองมาใช้กับคฑาโลกิ โดยที่ชาวโซโคเวี่ยนไม่รู้ว่ากองกำลังต่างชาติลึกลับนี้คือพวกไหน

และชาวเมืองหลวง ก็ออกมาชุมนุมประท้วงเพื่อขับไล่กองกำลังลึกลับนี้ ซึ่งในกลุ่มในกลุ่มชาวเมืองผู้ออกมาต่อต้าน ก็คือสองพี่น้องฝาแฝด เปโตร แม๊กซีมอฟ และ วานด้า แม๊กซีมอฟ ผู้สูญเสียพ่อแม่ในวัยเด็ก จากจรวดสตาร์คอินดรัสทรีส์ของโทนี่

วานด้า และ เปโตร (Avenger 2)

 

หลังจากถูกรุกรานโดยกองกำลังไม่ทราบฝ่ายมานาน ชาวโซโคเวี่ยนเริ่มสิ้นหวัง ก็มีกลุ่มนักวิทยาศาสตร์เสนอความช่วยเหลือ (ก็พวกไฮดร้าอีกนั่นละ) มาเสนอทางเลือกให้กับเปโตรและวานด้า (รวมถึงชาวเมืองคนอื่นด้วย) ถึงทางเลือกที่จะขับไล่กองกำลังผู้รุกรานออกไปจากประเทศตน

วอนสตรัคเกอร์และดร.ลิสก์ กับคฑาโลกิ (Avenger 2)

 

จุดประสงค์ของไฮดร้าในการแทรกซึมโซโคเวียก็คือ เป่าหูผู้คนในประเทศอันแร้นแค้นนี้ให้อาสาเอาตัวเองทดลองเพื่อกลายเป็นมือสังหารเหนือมนุษย์ โดยนักวิทยาศาสตร์ไฮดร้าใช้คฑาควบคุมจิตใจนำมาทดลอง ซึ่งสองพี่น้องแม็กซีมอฟก็อาสาทันที

ขณะการทดลองของวานด้านั้น ก็เกิดเรื่องประหลาดขึ้น เมื่อ Mind Stone หนึ่งใน Infinity Stone ลอยออกมาจากคฑาควบคุมจิตใจ ลอยเข้ามาหาวานด้า และเข้ามาปลุกพลังเคออสเมจิกในตัวเธอ วานด้าพบเห็นตัวเองในร่าง สกาเล็ต วิซ ในเสี้ยววินาที่ที่มายด์สโตนปลุกพลังเธอให้ตื่น (ทางด้านเปโตร ก็ถูกปลุกพลังเป็น ควิกซิลเวอร์) แต่ผู้ทดลองคนอื่นตายเรียบ มีเพียงสองพี่น้องฝาแฝดเท่านั้นที่รอดจากการทดลอง

เปโตรและวานด้า มีพลังเหนือมนุษย์แล้ว (Cap 2: Winter Soldier)

 

อ่านบทที่ 3 ต่อที่ลิ้งค์ข้างล่าง

 

>>บทที่ 3 (เพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่)<<

 

สวัสดีครับ

_/\_