Tales from the Crypt: Demon Knight (1995)

Begining.. เมื่อครั้งที่ยังมีเพียงมิติแห่งความว่างเปล่า และความมืดมิดอันเวิ้งว้างไม่มีที่สิ้นสุด แต่ในความว่างเปล่าและความมืดนั้น มี Demon (เดมอน) อาศัยอยู่มากมาย (เดมอน=ปีศาจ) พวกเดมอนมีกุญแจแห่งพลัง 7 ดอก ซึ่งกุญแจทั้ง 7 นั้นมีอานุภาพที่จะรวบรวมพลังเดมอนทั้งหมดทั้งมวล และบังเกิดเป็นอำนาจสุดที่หยั่งถึงได้..

แต่แล้ว “พระเจ้า” ได้มาปรากฎกายขึ้นในความว่างเปล่าและความมืดมิดนั้น และพระองค์ทรงตรัสว่า “จงมีแสงสว่างเกิดขึ้นเถิด” ฉับพลัน แสงสว่าง ก็บังเกิดขึ้น พวกเดมอนรวมทั้งกุญแจทั้ง 7 ดอกของพวกมัน ต่างโดนแสงสว่างขับไล่กระจัดกระจายไปในมุมมืดของทั่วทุกแห่งหนในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลไม่มีที่สิ้นสุดนี้ ซึ่งกาแล๊กซี่ต่างๆทั้งหลายในจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุด ก็เกิดขึ้นมาจากแสงสว่างของพระเจ้านั่นเอง..

ผ่านมาเนิ่นนานนับสามพันล้านล้านปี เดมอนต่างก็ไล่ล่าตามหากุญแจของพวกมันไปทั่วทุกกาแล๊กซี่ เพื่อที่พวกเดมอนจะกลับมามีพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่สุดจะหยั่งถึงอีกครั้ง และจะเปลี่ยนทั้งจักวาลสู่มิติแห่งภูติผีปีศาจและความมืดดังเช่นเดิม จนกระทั่งเดมอนค้นหาเจอแล้ว 6 ดอก เหลือเพียงดอกสุดท้ายเท่านั้น

เดมอน

ก่อนเข้าสู่คริสตกาลเพียงไม่นาน และในที่สุด มันก็พบว่า กุญแจดอกที่ 7 อยู่บนโลกมนุษย์.. พระเจ้าล่วงรู้ว่า เดมอนจะต้องมาตามล่ากุญแจดอกที่เจ็ดบนโลก และเพื่อเป็นการปกป้องกุญแจดอกสุดท้ายนี้ พระเจ้าได้บรรจุเลือดของพระเยซูบุตรของพระองค์เอาไว้ภายในกุญแจดอกสุดท้าย เพื่อให้เลือดอันศักสิทธิ์ของพระเยซู ทำหน้าที่ปกป้องกุญแจดอกนี้ ไม่ให้ตกไปอยู่ในเงื้อมมือเดมอนอย่างเด็ดขาด และพระเยซู ก็โดนชาวโรมันจับตรึงกางเขน

พระเยซู

ก่อนที่พระเยซูกำลังจะตาย พระเยซูได้มอบกุญแจดอกนี้ที่มีเลือดของพระองค์ให้กับโจรที่ชื่อ Sirach (ซีราซ) เพื่อให้ซีราซทำหน้าที่ปกป้องกุญแจต่อจากตนเอง ทันที่ที่ซีราซรับกุญแจ ก็บังเกิดดาวเจ็ดดวงบนฝ่ามือ

และซีราซก็รับรู้วิธีขับไล่เดม่อนจากเหตุการณ์นี้ เพราะซีราซเห็นกับตาว่า เมื่อมือของเดม่อนโดนเลือดพระเยซู ทำให้เดม่อนบาดเจ็บ ซีราซจึงใช้เลือดพระเยซูที่ไหลออกมาจากฝ่ามือที่ถูกตะปูตรึง ขับไล่เดม่อนตนนั้นได้สำเร็จ

ซีราซ The First Demon Knight

ซีราซ จึงเป็นอัศวินผู้ปกป้องคนแรก และมีรอยสักเป็นรูปดาวเจ็ดดวงอยู่บนฝ่ามือคนแรก (ดาวทั้งเจ็ดจะกระจัดกระจายไม่มีรูปแบบ) และเมื่อใดที่รอยสักดาวทั้งเจ็ดตัวเรียงตัวเป็นวงกลม และมีผู้อยู่ใกล้เคียงอัศวินผู้ปกป้องเจ็ดคน นั่นหมายความว่า ถึงคราวที่ชะตากำหนดชีวิตให้อัศวินผู้ปกป้องคนเดิมจะต้องตายไป และจะมีอัศวินผู้ปกป้องคนใหม่เป็นหนึ่งในเจ็ดคนนี้แน่นอน (อีกหกคนต้องตาย)

ซึ่งเมื่อประทับกุญแจแห่งปีศาจลงบนฝ่ามือของผู้ที่รอดชีวิตคนสุดท้ายในเจ็ดคน จะปรากฎรอยสักรูปดาวเจ็ดดวงบนฝ่ามือของอัศวินผู้ปกป้องคนใหม่ ทำหน้าที่ปกป้องกุญแจแห่งเดมอนต่อไป..

รอยสักรูปดาวทั้งเจ็ดดวงบนฝ่ามือที่ยังไม่เรียงกันเป็นวงกลม

เงื่อนไขในดวงชะตาชีวิตของอัศวินผู้ปกป้องกุญแจนั้น มีง่ายๆ อัศวินผู้ปกป้อง จะต้องปกป้องกุญแจใน “ทุกค่ำคืน” ที่ความมืดมิดมาเยือนตลอดช่วงชีวิต ซึ่งฝั่งทางเดม่อนจะส่ง The Collector (เดอะคอลเลคเตอร์) เดมอนชั้นสูงที่มีอำนาจมากกว่าเดมอนทั่วไป มาตามล่ากุญแจดอกสุดท้ายนี้จากอัศวินผู้ปกป้อง

โดยอัศวินผู้ปกป้อง จะได้รับพรจากพระเจ้าให้มีความเป็นอมตะ ไม่แก่ลงอีกเลย จวบจนถึงวันที่ดาวทั้งเจ็ดในฝ่ามือเรียงกันเป็นวงกลม ซึ่งเป็นคืนสุดท้ายของชีวิตที่จะต้องส่งกุญแจให้อัศวินผู้ปกป้องคนต่อไป ความทรงจำทุกอย่างของอัศวินผู้ปกป้องคนเดิมทุกรุ่น จะถูกถ่ายทอดให้อัศวินผู้ปกป้องคนใหม่ รวมถึงความเป็นอมตะด้วย และเลือดของอัศวินผู้ปกป้องคนเดิมนั้น จะมีอานุภาพป้องกันเดมอนได้เช่นเดียวกับเลือดของพระเยซู อัศวินผู้ปกป้องคนใหม่ จึงต้องบรรจุเลือดของอัศวินผู้ปกป้องคนเดิมให้เต็มกุญแจ เพื่อใช้เลือดนี้ขับไล่และป้องกันเดมอนต่อไป..

รอยสักรูปดาวทั้งเจ็ดดวงบนฝ่ามือที่เรียงกันเป็นวงกลมแล้ว

คริสตศักราช 1917 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่กลางสมรภูมิรบในฝรั่งเศส ผ่านกาลเวลามาเนิ่นนานที่อัศวินผู้ปกป้องถูกส่งมาจากรุ่นสู่รุ่น จวบจนมาถึงรุ่นของ Dickerson (ดิ๊กเคอร์สัน) นายทหารหนุ่มสัญชาติอเมริกันที่กำลังรบกับเดม่อนทหารในค่ำคืนที่แสนยาวนาน..

วันสุดท้ายในฐานะผู้ปกป้องกุญแจของดิ๊กเคอร์สัน ก็มาถึง ดาวบนฝ่ามือของดิ๊กเคอร์สันเรียงเป็นวงกลม ในวันที่ทหารชั้นผู้น้อยเหลือเพียงแค่เจ็ดคน ท่ามกลางเดม่อนมากมายรายล้อมพวกเขาอยู่ ซึ่งทหารชั้นผู้น้อยคนสุดท้ายที่รอดชีวิตคือ Frank Brayker (แฟรงค์ เบรเกอร์) นั่นทำให้เบรเกอร์ คืออัศวินผู้ปกป้องกุญแจคนต่อไป..

ดิ๊กเคอร์สันมอบกุญแจให้เบรเกอร์

คริสตศักราช 1995 ที่อเมริกา ผ่านมา 78 ปี ที่เบรเกอร์ต้องคอยใช้ชีวิตในทุกๆวันทุกๆคืน เพื่อป้องกันและหลบหนีเดมอน จนกระทั่งวันหนึ่ง เบรเกอร์ต้องหนีหนึ่งในเดอะคอลเลคเตอร์ ที่ขับรถไล่ล่าเบรเกอร์มาจนถึงเมืองเล็กๆ รถทั้งสองคันก็ชนกันจนคว่ำไป และเบรเกอร์ก็รีบหนีเดอะคอลเลคเตอร์ทันที

เดอะคอลเลคเตอร์นั้นโงนเงนเดินออกมาจากซากรถ และพบ นายอำเภอ กับ บ็อบผู้ช่วยนายอำเภอพอดี แต่เดอะคอลเลคเตอร์บอกนายอำเภอว่า เบรเกอร์นั้นขโมยของของตนเองมา และเบรเกอร์คือบุคคลอันตราย นายอำเภอจึงพาเดอะคอลเลคเตอร์ตามหาเบรเกอร์ไปทั่วเมือง..

ด้านทางเบรเกอร์ที่ซมชานหนีมา และพยายามจะขโมยรถของชาวบ้านคนหนึ่ง แต่ “แดนนี่” ลูกชายของชาวบ้านคนนั้นมาเห็นซะก่อน เบรเกอร์จึงต้องวิ่งหนีออกมา และหนีไปพบกับ “ลุงวิลลี่” ขี้เมาประจำเมือง ลุงวิลลี่พาเบรเกอร์มาจนถึงโบสท์เก่าแก่ ที่ตอนนี้ได้กลายเป็นโรงแรมไปซะแล้ว ทันใดนั้นดาวในมือของเบรเกอร์ก็เรียงกันเป็นวงกลม

สถานที่สุดท้ายในดวงชะตาชีวิตของเบรเกอร์

เบรเกอร์จึงรู้ตัวว่า นี่คือคืนสุดท้ายในชีวิตของตนเอง และจะต้องมีคนอยู่ในโรงแรมนี้เจ็ดคนแน่นอน ซึ่งหนึ่งในเจ็ดจะกลายเป็นอัศวินผู้ปกป้องกุญแจคนต่อไป หรือไม่ก็กลายเป็นจุดจบของโลกและทุกๆสิ่งในจักรวาล ถ้าเดอะคอลเลคเตอร์ได้กุญแจดอกสุดท้ายไปสำเร็จ

คนที่ 1 Willy (วิลลี่) ชายแก่ขี้เมาผู้มีปม

แต่เมื่อลุงวิลลี่พาเบรเกอร์เข้าไปในโรงแรม กลับพบว่าภายในโรงแรมยังมีไม่ถึงเจ็ดคน เบรเกอร์จึงทำการขอพักโรงแรมแห่งนี้กับไอรีนเจ้าของโรงแรม และคิดว่าอาจจะยังไม่ถึงเวลาของ Demon Knight คนต่อไปก็เป็นได้

คนที่ 2 Irene (ไอรีน) หญิงผิวดำเจ้าของโรงแรมที่เป็นโบสท์เก่า

ซึ่งตอนแรกไอรีนไม่ให้เบรเกอร์พัก เพราะไม่มีนโยบายให้พักคืนเดียว แต่เมื่อไอรีนเห็นเงินของเบรเกอร์ ไอรีนจึงยอมให้พักได้ ไอรีนจึงเรียกเจรีลีน พนักงานสาวที่ทำทุกอย่างเพียงคนเดียวในโรงแรมให้มาพาเบรเกอร์ไปห้องพัก

คนที่ 3 Jeryline (เจรีลีน) สาววัยรุ่นผิวดำสุดแสบ

ซึ่งในระหว่างการพักโรงแรมแห่งนี้ ก็มีสาวสวยนามว่าคอดีเลียพักอยู่ที่โรงแรมแห่งนี้ด้วย โดยคอดีเลียนั้นเป็นคู่ขาร่วมหลับนอนกับโรซ หนุ่มซ่าประจำเมือง

คนที่ 4 Cordelia (คอดีเลีย) สาวสวยที่โดนเอาเปรียบ

คนที่ 5 Roach (โรซ) ชายหนุ่มจอมเจ้าเล่ห์ผู้ไว้ใจไม่ได้

แต่ก็ยังมีชายหนุ่มที่ชื่อวอลลี่อีกคนนึงผู้ซึ่งอาภัพเรื่องงานและเรื่องสาวๆ ก็ได้แวะมาที่โรงแรมแห่งนี้เพื่อทานอาหารค่ำ ซึ่งวอลลี่นั้นหลงรักคอดีเลียอยู่เช่นกัน และในวันนี้เองที่วอลลี่ เพิ่งถูกไล่ออกจากงาน

คนที่ 6 Wally (วอลลี่) บุรุษไปรษณีย์ผู้หลงรักคอดีเลีย

มาถึงตอนนี้ เบรเกอร์คิดว่า คงไม่มีอันตรายใดๆจะเกิดขึ้นในคืนนี้ เพราะมีแค่ 6 คนในที่แห่งนี้ ยังไม่ครบ 7 ตามโชคชะตา แต่แล้วนายอำเภอและบ็อบ ก็พาเดอะคอลเลคเตอร์เข้ามาที่โรงแรมนี้ ในระหว่างที่นายอำเภอกำลังยึดกุญแจมาจากเบรเกอร์ เดอะคอลเลคเตอร์ก็พยายามจะให้นายอำเภอร์นำกุญแจใส่กระเป๋าให้ (เพราะเดอะคอลเลคเตอร์ไม่สามารถแตะต้องกุญแจที่มีเลือดผู้ปกป้องได้)

นายอำเภอ เห็นความไม่ชอบมาพากลของเดอะคอลเลคเตอร์ จึงไม่ยอมส่งกุญแจให้เดอะคอลเลคเตอร์ กลับใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงตนเองแทน ก่อนจะเริ่มจะซักถามถึงความเป็นมาเป็นไป ว่าเรื่องมันเป็นยังไงมายังไงกันแน่ เดอะคอลเลคเตอร์จึงตัดบทโดยการต่อยหัวนายอำเภอทีเดียวทะลุไปเลย ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคนในโรงแรม

เดอะคอลเลคเตอร์ตนนี้ ไล่ล่าเบรเกอร์มานาน

เบรเกอร์รีบกระโจนไปที่ศพนายอำเภอ และล้วงเอากุญแจมาจากกระเป๋ากางเกงนายอำเภอ ก่อนจะใช้กุญแจนั้นนาบหน้าเดอะคอลเลคเตอร์ ทำให้เดอะคอลเลคเตอร์กระโดดหนีออกไปนอกโรงแรม

เดอะคอลเลคเตอร์เริ่มกรีดเลือดสีเขียวที่ฝ่ามือ และสาดเลือดนั้นไปบนดิน บังเกิดเป็นภูติผีปีศาจมากมายผุดขึ้นจากดิน (เป็นเดมอนชั้นต่ำ) บัดนี้จึงครบกำหนด Demon Knight ตามชะตาแล้ว 7 คน เพราะมีบ็อบซึ่งเป็นรองนายอำเภอเป็นคนที่ 7

คนที่ 7 Bob (บ๊อบ) รองนายอำเภอ

เดมอนเข้ามาโจมตีคนทั้งเจ็ดในโรงแรม เบรเกอร์จึงยิงทะลุตาเดมอน ทำให้มันตายไป และเบรเกอร์ก็บอกคนทั้งเจ็ดว่า วิธีฆ่าเดมอนคือยิงมันที่ดวงตาเท่านั้น ถ้าไม่มีปืนก็หาอะไรก็ได้แทงลูกกะตามัน (แต่ใช้ไม่ได้กับเดอะคอลเลคเตอร์นะวิธีนี้)

เบรเกอร์นำเลือดในกุญแจมาเทนิดนึงที่ขอบประตู บังเกิดเป็นม่านมนตร์ป้องกันมิให้เดมอนเข้ามาได้อีก และเบรเกอร์ก็เริ่มนำเลือดในกุญแจไปหยดใส่ที่ทางเข้าออกทุกทางในโรงแรม พวกเดมอนจึงทำได้เพียงแค่วนเวียนอยู่ภายนอกโรงแรม

กุญแจดอกสุดท้าย (ดอกที่ที่เจ็ด)

แต่อำนาจของเดอะคอลเลคเตอร์ซึ่งเป็นเดมอนชั้นสูงนั้น มีมากกว่า ถึงตัวมันจะเข้ามาไม่ได้ แต่มันก็สามารถอ่านความบาปในตัวมนุษย์ที่อยู่ในโรงแรมได้จากภายนอกโรงแรม และส่งภาพลวงตาสนองความบาปในตัวมนุษย์คนนั้น เพื่อล่อลวงให้ตกอยู่ในอำนาจมัน และกลายเป็นเดมอนในที่สุด

คนแรกในเจ็ดคนที่โดนเดอะคอลเลคเตอร์ล่อลวงก็คือคอดีเลีย โดยใช้ความรู้สึกที่คอดีเลียรู้สึกไร้ค่าล่อลวงเธอ ทำให้คอดีเลียกลายเป็นเดมอน และเดมอนคอดีเลียก็ฆ่าวอลลี เบรเกอร์และคนที่เหลือได้ยินเสียงวอลลี่ร้องโหยหวนจึงเข้ามาพอดี

ทุกคนพยายามจะฆ่าเดมอนคอดีเลีย และไอรีนก็โดนเดมอนคอดีเลียดึงแขนจนขาดไปเลย ในที่สุดเบรเกอร์จึงสังหารคอดีเลียได้ในที่สุด ในตอนนี้ผู้ถูกเลือกจึงเหลือ 5 คนเท่านั้น คือ บ็อบ / โรซ / ไอรีน / เจรีลีน/ ลุงวิลลี่

คอดีเลียที่โดนล่อลวงเป็นเดมอนฆ่าวอลลี่

คนที่เหลือทั้ง 5 (ไม่นับรวมเบรเกอร์) จึงคิดหาทางหนีออกจากโรงแรม ทุกคนจำได้ว่าที่นี่คือโบสท์เก่ามีทางใต้ดินทะลุไปที่เหมืองร้าง ทุกคนจึงคิดจะหนีไปทางนั้น และเจรีลีนก็พบแดนนี่หลบอยู่ใต้ทางลับนั้น ทันทีที่เจรีลีนช่วยแดนนี่ไว้ ในใต้อุโมงค์นั้นก็ปรากฎชาวเมืองที่กลายเป็นเดมอนหลายคน เจรีลีนจึงพาแดนนี่หนีกลับเข้ามายังโรงแรมคืน เบรเกอร์ก็ใช้เลือดจากกุญแจปิดทางเข้าที่อุโมงค์ไว้ และเบรเกอร์ก็นำกุญแจแตะหน้าผากแดนนี่ดูเพื่อความชัวร์

แดนนี่หนีรอดมาได้คนเดียว

เดอะคอลเลคเตอร์พยายามล่อลวงเจรีลีนเป็นรายต่อไป ด้วยการสร้างภาพว่าเจรีลีนเป็นเซเลปฯผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่เจรีลีนนั้นไม่หลงกล จึงหลุดจากการล่อลวงมาได้ และทุกคนก็อพยพขึ้นมาชั้นสอง เพราะโรงแรมชั้นล่างนั้นโดนเดม่อนยึดได้หมดแล้ว

แดนนี่หนีขึ้นมาที่ห้องใต้หลังคา และหยิบหนังสือเก่าที่ชื่อ Tales from the Crypt : Demon Knight มานั่งอ่านเงียบๆคนเดียว ลุงวิลลี่ตามหาตัวแดนนี่จนเจอ แต่ก็เจอเหล้าด้วย ลุงวิลลี่จึงนั่งซดเหล้าซะเพลิน ไอรีนเจ้าของโรงแรมที่แขนขาดจึงขึ้นมาตามคนทั้งสองลงไปข้างล่าง

ไอรีนพบว่าที่ห้องใต้หลังคานี้มีระเบิดอยู่เพียบ ไอรีนจึงตามผู้ช่วยนายอำเภอบ็อบขึ้นมาข้างบนด้วย เพื่อหาวิธีใช้ระเบิดให้เป็นประโยชน์

ลุงวิลลี่และแดนนี่นั้นพอลงไปชั้นล่างแล้ว ลุงวิลลี่ก็โดนเดอะคอลเลคเตอร์พยายามล่อลวง โดยให้ลุงวิลลี่เห็นสาวเปลือยในบาร์ชายหาดมากมาย และลุงวิลลี่ก็กลายเป็นเดม่อน สุดท้ายก็โดนเบรเกอร์และเจรีลีนช่วยกันฆ่าไปอีกคน ตอนนี้ผู้ถูกเลือกจึงเหลือเพียงแค่ 4 คนแล้ว คือ บ็อบ / โรซ / ไอรีน / เจรีลีน/ (ไม่นับรวมแดนนี่เพราะเพิ่งเข้ามา)

ลุงวิลลี่ในสภาพเดม่อน

โรซนั้นอาศัยช่วงชุลมุนชิงเอากุญแจจากเบรเกอร์ไปได้ ลบเลือดมนตร์ที่กั้นชั้นสอง และพยายามทำข้อตกลงกับเดอะคอลเลคเตอร์ เพื่อที่ตนเองจะได้หนีออกไปคนเดียว กุญแจจึงตกไปอยู่ในมือของคอลเลคเตอร์สำเร็จเป็นครั้งแรก หลังจากคอลเลคเตอร์หลายๆตัวไล่ล่ามานานสองพันกว่าปี (ตามหามาก่อนกำเนิดคริสตกาล) ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีสัจจะในคำมั่นของเดม่อนอย่างเดอะคอลเลคเตอร์อยู่แล้ว โรซจึงโดนเดมอนรุมกัดกินตายไปอีกคน ตอนนี้ผู้ถูกเลือกจึงเหลือเพียง 3 คน คือ บ็อบ / ไอรีน / เจรีลีน

จุดจบของโรซผู้ทรยศ

เดอะคอลเลคเตอร์เดินแกว่งกระเป๋าบุกเข้ามาที่ชั้นสองของโรงแรมอย่างสบายใจ เพราะโรซลบเลือดให้หมดแล้ว แต่เดอะคอลเลคเตอร์ก็โดนเบรเกอร์ยิงธนูใส่เบ้าตาจนกระเด็นไปเลย ทำให้กระเป๋าที่บรรจุกุญแจนั้นตกที่พื้น เป็นจังหวะที่เบรเกอร์ช่วงชิงมาคืนจนได้ แต่เหล่าเดม่อนที่เหลือก็กรูกันเข้ามามากมาย

เมื่อสถานการณ์เลวร้ายถึงขีดสุด ไอรีนและบ็อบจึงสั่งให้เบรเกอร์พาเจรีลีนกับแดนนี่ขึ้นไปหลบที่ห้องใต้หลังคา และไอรีนกับบ็อบก็ระเบิดตัวเองตายไปพร้อมกับเดม่อนที่บุกมามากมาย

ตอนนี้จึงเหลือผู้ถูกเลือกเพียงคนเดียวคือ เจรีลีน

แดนนี่ที่หลบไปห้องใต้หลังคานั้น ก็ไปนั่งอ่านหนังสือเล่มเดิมคือ Tales from the Crypt : Demon Knight ทันใดนั้นเดม่อนที่สิงอยู่ในหนังสือก็เข้าสิงแดนนี่ทันที และแดนนี่ในร่างเดม่อนก็โจมตีเบรเกอร์ ทำให้เบรเกอร์ใกล้จะตายเต็มทน เจรีลีนไม่มีทางเลือก จึงต้องฆ่าแดนนี่ด้วยมือตนเอง

แดนนี่ในร่างเดม่อน

ก่อนที่เบรเกอร์จะขาดใจตาย จึงทำพิธีส่งมอบกุญแจให้เจรีลีนเป็นอัศวินผู้เก็บรักษาต่อไป และเบรเกอร์ก็ตาย เจรีลีนนั้นรับรู้เหตุการณ์ทุกอย่างแล่นมาในสมองมากมาย ตั้งแต่พระเยซูโดนตรึงไม้กางเขนเมื่อเกือบสองพันปีที่แล้วจนมาถึงวันนี้ ซึ่งในที่สุด เจรีลีนก็ฆ่าเดอะคอลเลคเตอร์ตนนี้ได้สำเร็จ ก่อนที่เจรีลีนจะไปนำเลือดของศพเบรเกอร์มาเติมให้เต็มขวดกุญแจ

เจรีลีนเตรียมออกเดินทาง เพราะต่อจากนี้เธอต้องใช้ชีวิตอมตะเช่นนี้ไปอีกนานเท่าใดเธอก็ไม่รู้ ขณะที่เจรีลีนกำลังจะก้าวขึ้นรถทัวร์นั้น เธอก็ไม่ลืมที่จะหยดเลือดปิดประตูรถทัวร์

แต่แล้ว เดอะคอลเลคเตอร์ตัวใหม่ ก็ปรากฎขึ้นกลางทาง และโบกรถทัวร์คันดังกล่าว แต่..เดอะคอลเลคเตอร์ผู้นั้นไม่ยอมขึ้นรถคันนี้ เพราะเลือดที่เจรีลีนหยดไว้นั่นเอง การไล่ล่าที่ไม่รู้จุดสิ้นสุด ได้เริ่มต้นอีกครั้ง..

เดอะคอลเลคเตอร์ เดม่อนตนต่อมา

จบ สวัสดีครับ _/\_

เกี่ยวกับเจ้าของเว็บไซต์
โพสท์ล่าสุด

ผู้เขียน หลวงจีนหอไตร

Hello! Every one. จุดเริ่มต้นงานเขียนของผมก็คือ ผมเป็นนักอ่านก่อนครับ และที่ผ่านมาผมก็หาอ่านงานเขียนแนวสรุปภาพยนตร์ยากเย็นเหลือเกิน ผมจึงเริ่มเขียนบทความเองและสร้างเว็บไซต์เองซะเลย